-  เลขประจำตัวแหล่งเรียนรู้การเลี้ยงสัตว์              56-9-90-2-11-428

-   จดทะเบียนเป็นแหล่งการเรียนรู้การเลี่ยงสัตว์กับกรมปศุสัตว์       

-  วันที่ 29 ตุลาคม 2556

-  แหล่งเรียนรู้การเลี้ยงประเภท       เฉพาะทาง (การเลี้ยงโคขุน)

- เลขบัตรประชาชน           3900500219962

-  (วัน/เดือน/ปี ที่เกิด)                   29 สิงหาคม 2504  อายุ  53 ปี  เชื้อชาติไทย  สัญชาติไทย

-  ที่อยู่ปัจจุบัน                            24/1 หมู่ 3 บ้านกรุหมาก ตำบลเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา

-  โทรศัพท์                       081-9901229, 086-6930019

-  การศึกษาสูงสุด               อนุปริญญา

-  สถานภาพการสมรส                  สมรส  (นางต่อน๊ะ  เหล็มและ)

-  มีบุตร-ธิดา  รวมจำนวน  3  คน  (ชาย  2  คน   หญิง  1  คน)

-  อาชีพหลัก (อาชีพที่ทำรายได้มากที่สุด) การเลี้ยงโคขุน

-  ชนิดปศุสัตว์ที่เลี้ยง     

          1. โคขุน         จำนวน   35  ตัว       

          2. แม่โค         จำนวน   10  ตัว

          3. ลูกโค         จำนวน     4  ตัว

          4. แพะ                   จำนวน     8  ตัว       

พื้นที่ประกอบอาชีพด้านการเกษตรของตนเอง จำนวน   20     ไร่  

เกษตรกรต้องมีความซื่อสัตย์ที่จิตใจ

- เกษตรกรติดยึดกับเจ้าหน้าที่

- สภาพพื้นที่ เปลี่ยนไป พื้นที่เลี้ยงโคน้อยลง ต้องปรับรูปแบบการเลี้ยงเป็นการเลี้ยงโคแบบประณีต การเลี้ยงโคแบบรายย่อยต้นทุนสูงกว่าการเลี้ยงแบบประณีต ราคาโคสูงขึ้นมาก ตัวเดียวขายได้ถึงสองแสนกว่าบาท

- การเลี้ยงโคขุน โคลูกผสมพันธุ์ยุโรป เช่นชาร์โรเลย์ แองกัส โดยการเลี้ยงขังในโรงเรือน ใช้หญ้าที่ปลูกให้กิน เสริมอาหารข้น หรือใช้ฟางแห้ง เปลือกสับปะรดอบแห้ง ให้กิน อาหารต้องมีคุณภาพดี อาหารเสริม(ข้น)อย่าไปยึดถือของบริษัท

- อาหารข้นที่ผสมใช้เลี้ยงโค ต้นทุน กก.ละ 3 บาทกว่า ในอาหารม่มีสารเร่ง โดยใช้จมูกข้าว(รำ)เป็นตัวเร่ง ในการผสมอาหารที่ผ่านมาทางบริษัทเอกชนซื้อสูตรไปผลิต โดยมีค่าตอบแทน กก.ละ 1 ีกทางหนึ่งสต.การใช้เมล็ดในปาล์มน้ำมัน ทำให้โคมีความสมบูรณ์สูงลดปัญหาเรื่องพยาธิและเห็บได้อ ข้อด้อยภาคใต้ ไม่มีมันสำปะหลัง

- ขาดการบูรณาการในการทำงาน

- การใช้ประโยชน์จากฟางข้าวเพื่อการเลี้ยงโค ต้นทุนจะถูกกว่า การใช้ฟางหวาน ซึ่งเป็นฟางข้าวที่เก็บเกี่ยวต้นข้าวที่ร่วงหล่นหลังจากการเก็บเกี่ยวครั้งแรกหล่นงอกเมื่อตั้งท้อง ก็เก็บเกี่ยวเป็นฟางหวาน ปัจจุบันบางจังหวัดของภาคกลางมีทำนาเพื่อขายฟาง

- การใช้เศษอาหารจากครัวเรือนเลี้ยงโค

- ราคาโคเนื้อทั้งตัว ปัจจุบัน  กก.ละ 90-100 บาท ราคาโคอยู่ที่ผู้เลี้ยง ตลาดเวียดนามต้องการโค 500 กก.

- เทคนิคการเพิ่มน้ำหนักโคก่อนจำหน่าย 1 เดือน โดยการขุนด้วยเปลือกสับปะรดอบแห้ง คู่กับอาหารข้น นน.จะเพิ่มขึ้นประมาณ 70 กก. คุณภาพซาก เนื้อนุ่มสวย สีชมพู

- จากการศึกษาดูงานที่สหกรณ์โพนยางคำ จ. สกลนคร ทางสหกรณ์จะซื้อโคจากของสมาชิกที่ผ่านการขุนแล้ว มาขุนต่อใช้อาหารฟางแห้ง กากมันสำปะหลัง รำ กากน้ำตาล

- เกษตรกรบ้านเราไม่เก่งเรื่องตลาด

- เนื้อโคที่จำหน่ายส่วนมากเป็นเนื้อโคขุน

- การส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ อยากให้เหมือน จ.ปัตตานี มีการประกวดโคในรอบปี

- ที่ฟาร์มส่วนตัว บ้านพรุหมาก ม. 3 อ.เทพา จ.สงขลา ยินดีต้อนรับทุกท่าน มีความภาคภูมิใจ ที่สามารถเป็นตัวอย่าง ทำให้เกษตรกรรายอื่นๆ สามารถเอาแบบอย่างประกอบเป็นอาชีพได้ พร้อมเป็นตัวกลางด้านตลาด โดยชั่ง นน.เป็น กก. เครือข่าย มี อ.สิงหนคร อ.จะนะ อ.เทพา ใกล้ที่ไหนติดต่อที่นั้น

- การจ้างผู้เลี้ยง ให้ค่าตอบแทนเป็น % จาก นน.ที่เพิ่มขึ้น

- การสนับสนุนเกษตรกร ควรเป็นคนที่ตั้งใจ สร้างให้เป็นศูนย์เรียนรู้ ดูจากคนที่มีความต้องการแล้วจึงสนับสนุน รัฐต้องสนับสนุนสายพันธุ์โคที่เกษตรกรต้องการ

- ประเทศมาเลเซีย บริโภคเนื้อเยอะ ประเทศจีนต่อไป คงทำแน่ ต้องการโคเนื้อที่ นน.อย่างต่ำ 600 กก.

- ศอ.บต.ทำโครงการร่วม เพื่อนำเจ้าหน้าที่/เกษตรกร จังหวัดละ 1-2 คน ไปศึกษาดูงาน โครงสร้างการเลี้ยงโค ที่ต่างประเทศ

- การสร้างสนามซ้อมโค ควรมีทุกอำเภอของจังหวัดสงขลา เพราะจะทำให้มีจำนวนโคเพิ่มขึ้นแน่นอน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : http://pvlo-sgk.dld.go.th/