การแก้ไขปัญหาแอร์รถยนต์
แอร์มีความจำเป็นมากสำหรับอากาศบ้านเรา ในขณะที่เราขับรถบนท้องถนนทั้งแสงแดดทำให้อากาศร้อน ขับไม่สบายหากแอร์ที่รถของเรานั้นเกิดปัญหา ปัญหาที่มักเกิดอย่างเช่นไม่เย็นบ้าง มีกลิ่นบ้าง เรามีวิธีแก้ไขเบื้องต้นมานำเสนอ หากเกิดปัญหาเหล่านี้อาจจะสามารถตรวจซ่อมเองเบื้องต้นได้
การทำงานเบื้องต้นของแอร์รถยนต์
อันดับแรกเราต้องเข้าใจการทำงานของแอร์ในรถยนต์ของเราก่อน เพราะว่าเป็นพื้นฐานที่ควรรู่ ก่อนที่จะดำเนินการแก้ไขในขั้นต่อไปได้ จะต้องเข้าใจหลักหารทำงานแล้วหน้าที่ของแต่ละชิ้นส่วน ของแต่ละชิ้นว่าทำงานอย่างไรบ้าง หากเกิดปัญหาหรือว่าเกิดสิงปกติก็สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และเข้าใจหลักการทำงานของส่วนต่างๆ
องค์ประกอบหลังที่จำเป็นต้องรู้
– สารทำความเย็น : สำหรับสารทำความเย็นหากหมดจะไม่เย็นเลยทันทีมักจะมีแค่ลมออก รถแต่ละรุ่งใช้แต่ต่างกันบ้าง รถรุ่นใหม่มักจะเป็นแบบ R-134a และรถรุ่นเก่าจะใช้ R-12 สามารถตรีวจสอบได้จากคู่มือ
– พัดลม : พัดลมจะมีหน้าที่ทำให้ความเย็นนั้นออกมา และยังช่วยในการกรองฝุ่นความชื้น ทำให้อากาศหมุนเวียนในรถ
– วาล์วลดความดัน ( EXPANSION VALVE ) : มีหน้าที่ในการอัดฉีดความเย็นลดความดันให้ความเย็นนั้นกระจายออก
– คอยล์ร้อน ( Condenser ) : ใช้ในการรับสารทำความเย็น โดยจะรับความร้อนจากจากคอมเพรสเซอร์ แล้วระบายออก ทำให้อุณหภูมิลดต่ำลง โดยจะอยู่ด้านหน้าตัวรถเป็นแผงอยู่กับหน้าน้ำ
– รีซีฟเวอร์ดรายเออร์ ( Receiver drier ) : ทำหน้าที่กรองสิงสกปรกที่มาจากความเย็น เปลี่ยนสถาณะสารทำความเย็นที่ผสมกับก๊าซให้เป็นของเหลวทั้งหมด
– คอมเพรสเซอร์ : เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดเลยก็ว่าได้ และจะมีราคาแพงและมีส่วนประกอบในตัวหลายอย่าง หากเปลี่ยนแล้วไม่ตรงอาจจะเกิดปัญหาตามมา มีหน้าที่ สูบฉีดสารทำความเย็นให้เป็นไปความดันสูง
– คอยล์เย็น (Evaporator) : คอยล์เย็น จะมีลักษณะเป็นแผงมีหน้าที่ระบายความเย็นออกโดยใช้พัดลม
พื้นฐานการทำงาน
เริ่มจากคอมเพรสเซอร์ได้ทำให้สารทำความเย็นนี้อัดแรงส่งไปตามขดลวดที่อยู่ ตามด้านหน้าของหม้อน้ำ โดยการบีดอัดนี้จะมีความร้อนที่สูงในสถาณเป็นก๊าซ แล้วส่งไปยังคอนแดนเซอร์จะเป็นแผงระบายความร้อนอยู่กับหม้อน้ำจะเปลี่ยนความ ร้อนให้มีอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็วโดยอาศัยสารทำความเย็น ตัวคอนแดนเซอร์นี้จะมีพัดลมช่วยในการระบายความร้อน โดยปกติอยู่ข้างๆจะมีถังพักน้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็น เราสามารถตรวจสอบระดับน้ำยาแอร์ในระบบได้จากการมองทะลุไปที่กระจกใส ด้านบนของ ถังพักน้ำยาแอร์ ต่อจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของวาล์วลดความดัน ที่จะลดความดันจากสารทำความเย็นและส่งต่อไปยังท่อขดลวดไปสู่ คอยล์เย็น ที่คอยล์เย็นจะมีเทอร์โม สตัทติดตั้งอยู่ เพื่อคอยตรวจสอบและควบคุมอุณหภูมิโดยผ่านทางสวิทช์ปรับระดับความเย็นซึ่งถูก ติด ตั้งอยู่บนแผงคอนโซลแอร์ จะทำให้ของเหลวกลายเป็นแก๊สทำให้เกิดความทชื้นและเย็นบริเวณแผงของคอยล์ เย็น ก็จะถูกพัดลมเป่าออกไปอากาศบริเวณห้องโดยสารก็จะมีอุณหภูมิลดลง สารทำความเย็นก็จะกลับไปที่คอมเพรสเซอร์อีกครั้งวนเวียนไปแบบนี้ตลอด
การตรวจสอบปัญหาและการแก้ไข
– สายพาน : การตรวจสอบสายพานนั้นหากเกิดยานขึ้นมาจะทั้งมีเสียงแลแอร์ก็จะไม่เย็นได้ เพราะว่าคอมเพรสเซอร์ ต้องอาศัยกำลังจากเครื่องยนต์ในการทำงาน ให้สารทำความเย็นไหลเวียน หรืออาจะทำให้ความเย็นไม่ได้เท่าที่ควร
– ไฟฟ้าทำงานปกติ : ให้ตรวจสอบสวิทช์ไฟฟ้าหากมีการใช้งานอาจจะทำให้สวิทช์ไม่ดีจึงทำให้กระแสฟ้า ไม่จ่ายไปยังระบบการทำงานได้ ดังนั้นควรตรวจสอบให้ดูหากพอไม่ต้องเปลี่ยน ลักษณะแบบนี้เป็นได้ทั้งแอร์ไม่เย็นและไม่ติดไปเลย
– ตรวจสอบน้ำยาแอร์ : หากน้ำยาแอร์อยู่ในระดับที่ต่ำหรือว่าจะหมดนั้นมีผลทำให้แรงดันของความเย็น ไม่เป็นปกติ ความเย็นที่จะได้รับนั้นจะน้อยลงจึงทำให้แอร์ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ อุณหภูมิสูงขึ้น แอร์ไม่เย็น การดูระดับจากคู่มือและสามารถที่จะนำไปเติมร้านแอร์รถยนต์ทั่วไปได้ ตามเบอร์ที่ได้กำหนดในแต่ละรุ่น โดยปกติแล้วเดินเครื่อง 1,500 รอบไปสักพหเปิดสวิตท์ A/C แล้วเปิดพัดลมให้แรงสุด ตรวจสอบที่น้ำยาแอร์ใต้กระโปรงรถ ใกล้หม้อน้ำ หากมีฟองอากาศอยู่เล็กน้อยแสดงว่าเพียงพอ แต่ถ้ามีมากไปแสดงว่ากำลังจะหมด ถ้าไม่มีฟองอากาศเลยก็มีมากไปไม่ดีอีก ต้องตรวจสอบให้ดี อาจจะตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้นบางระบบอาจจะใช้การไม่แม่นยำนัก
– ตรวจสอบการรั่วน้ำยาแอร์ : หากน้ำยาแอร์มีการั่รวจะทำให้มีแรงดันที่ลดลงซึ่งการตรวจสอบบางทำม่สามารถ ตรวจสอบได้ด้วยตัวเองจำเป็นที่จะต้องส่งไปที่ร้านซ่อมเพื่อตรวจเช็ค โดยช่างจะมีเครื่องมือใช้วัดความดัน การที่น้ำยาแอรร์รั่วนั้น อาจจะเป็นอันตรายต่อคนได้
– เปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ : อันนี้มีความลำบากใจหลายคนเพราะว่าราคาไม่เบาเลยหากที่เราจะเปลี่ยน แต่ก็ว่าละมันมีความจำเป็นเพื่อทำงานไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยน แต่ว่าจำทำอย่างไรที่จะมั่นใจว่าพร้อมเปลี่ยนแปลงหรือยัง เราต้องตรวจสอบดังกล่าวที่ผ่านมาให้ครบ แล้วลอง เปิดสวิตช์ A/C ลองดูการทำงานของคลัช บางทีปัญหานี้ต้องให้ช่างวิเคราะห์
– ล้างแอร์ : ควรที่จะล้างแอร์บ้างในระยะ10,000 กม. หรือว่าจะเป็น1ปี เพราะว่าจะทำให้สิ่งสกปรกไปติดทำให้แอร์ไม่เย็นและก็ทำให้มีกลิ่นออกมา จะได้ลดปัญหาเหล้านี้และไม่ทำให้ไปฉุดเครื่องยนต์อีกด้วย ช่วยยืดอายุการใช้งานไปได้อีก
เข้าชม : 798
|