เปลี่ยนตัวเองให้เป็นหนุ่มสาวรักษ์โลกกันเถอะค่ะ กับ DIY ย้อมสีผ้าจากวัสดุธรรมชาติ ใช้วัสดุจากธรรมชาติซึ่งมีอยู่รอบๆ ตัว อย่างผักผลไม้ ดอกไม้ หรือเครื่องดื่มที่เรากินเราดื่มอยู่ทุกวัน ได้สีสันสวยเป็นธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีเจือปน แถมขั้นตอนการทำก็ง่าย สนุกสนาน เหมาะสำหรับแก้ว่างในวันเหงาๆ หรือเป็นกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ได้นะคะ เด็กๆ ก็ทำได้ ไม่อันตรายค่ะ งั้นมาลงมือเปลี่ยนสีเสื้อผ้าและข้าวของจากผ้าด้วยการย้อมสีจากธรรมชาติกันดีกว่า

 dyeing fabric with Turmeric  DIY fabric dye with Turmeric / ย้อมสีผ้าด้วยขมิ้น

ขมิ้น

แนะนำให้ใช้ขมิ้นผงเพื่อความสะดวกค่ะ และเป็นขมิ้นประเภทเดียวกับที่เราทำอาหารและขัดตัวด้วยนะคะ หาซื้อได้ง่ายๆ เลยค่ะ จากตลาด ซูเปอร์มาร์เกต หรือร้านออนไลน์ต่างๆ แถมยังราคาไม่แพงอีกด้วย วิธีทำก็เพียงแค่ต้มน้ำในหม้อใหญ่ๆ ด้วยไฟกลาง ใส่ขมิ้นผงลงไป 5 ช้อนโต๊ะค่ะ หากจะทำผ้ามัดย้อม ก็ใช้หนังยางมัดผ้าให้แน่นค่ะ ส่วนผ้าที่ให้สำหรับการย้อมควรเป็นผ้าสีอ่อนอย่างขาวหรือครีมค่ะ ก่อนใส่ผ้าสำหรับย้อมลงไปในหม้อผสมขมิ้นเดือดๆ ให้นำผ้าไปแช่น้ำเย็นหรือน้ำธรรมดาก่อนนะคะ จะช่วยให้ผ้าดูดสีน้ำขมิ้นได้ดีขึ้นค่ะ บิดผ้าให้หมาด เมื่อน้ำขมิ้นเดือดให้ลดไฟต่ำลงแล้วจึงใส่ผ้าลงไปค่ะ ต้มต่อไปอีก 1 ชั่วโมง หมั่นค้นเพื่อให้สีติดทั่วถึงนะคะ เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วก็ยกหม้อลงค่ะ ปล่อยให้เย็น 15 นาที จากนั้นจึงนำผ้ามาล้างน้ำธรรมดาเพื่อล้างสีส่วนเกินออก ให้เหลือแต่สีที่ติดในเนื้อผ้าแล้วค่ะ ถ้าทำผ้ามัดย้อมก็ให้แกะหนังยางออกค่ะ ตากให้แห้ง เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ
ที่มา : www.highondiy.com

dyeing fabric with coffee / ย้อมผ้าด้วยกาแฟDIY fabric dye with coffee / ย้อมผ้าด้วยกาแฟ

กาแฟ

ใช่แล้วค่ะ กาแฟที่เราดื่มกันยามเช้านี่แหละค่ะ ใช้ผงกาแฟสำเร็จรูป 1 ถ้วย ผสมน้ำ 4 ถ้วย นำไปต้มให้เดือด พอเดือดแล้วให้ปิดไฟ รอจนกว่าน้ำจะเย็นแล้วจุ่มผ้าลงในน้ำกาแฟให้ชุ่มเลยค่ะ จากนั้นนำผ้าขึ้นมาบิดให้หมาด ตากให้แห้งค่ะ หรือจะเอาเข้าเตาอบก็ได้ค่ะ แผ่ผ้าบนถาดอบ นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 250 องศา ประมาณ 5 นาทีหรือน้อยกว่านั้น สีของผ้าด้านบนจะซีดลงเล็กน้อย ส่วนด้านหลังจะปรากฏสีน้ำตาลของกาแฟเข้มมากขึ้นตามรอยยับค่ะ แต่ถ้าไม่อยากให้เห็นรอยยับชัดเจน และไม่อยากเอาไปอบ ก็สามารถตากแดดได้ตามปกติเลยค่ะ
ที่มา : www.polishthestars.com

dyeing fabric with blackberry / ย้อมผ้าด้วยแบล็กเบอร์รีblackberry boiling / ต้มแบล็กเบอร์รีเพื่อย้อมผ้า

แบล็กเบอร์รี

นำผ้าที่จะย้อมต้มในน้ำเปล่าผสมเกลือประมาณ 1 ชั่วโมง แนะนำให้ใช้ผ้าคอตตอนหรือผ้าเส้นใยธรรมชาติ เพราะสีจะติดง่ายและติดทนกว่าค่ะ จากนั้นล้างด้วยน้ำเย็น บิดให้หมาดแล้วพักไว้ มาเตรียมส่วนผสมสีจากผลแบล็กเบอร์รีกันดีกว่าค่ะ ใช้แบล็กเบอร์รี 1 ส่วนต่อน้ำ 4 ส่วน ต้มให้เดือดปุดๆ สัก 15 นาที แล้วกรอกเอาแต่น้ำ ทิ้งไว้ให้เย็นลง จากนั้นนำผ้ามาจุ่มลงไปค่ะ ทิ้งไว้ 10 นาที นำผ้าขึ้นแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด นำผ้าไปตากให้แห้ง เป็นอันเสร็จ สีอาจจะซีดลงเล็กน้อยนะคะ
ที่มา : www.scoutiegirl.com

dyeing fabric with Yellow Onion Skins / ย้อมผ้าด้วยเปลือกหอมใหญ่Yellow Onion Skins / เตรียมเปลือกหอมใหญ่DIY Yellow Onion Skins  dye / ย้อมผ้าด้วยเปลือกหอมใหญ่

เปลือกหอมใหญ่

อาจจะฟังดูแปลกๆ ก็ใครจะเชื่อละว่าเราจะย้อมสีด้วยเปลือกหอมใหญ่ได้ แล้วสีจะออกมาเป็นยังไงนะ เปลือกหอมใหญ่จะให้สีน้ำตาลอมส้มคะ เริ่มจากเตรียมผ้าที่จะย้อมโดยนำไปต้มหรือแช่ในน้ำร้อนสัก 1 ชั่วโมง บิดให้หมาดๆ และพักไว้ ส่วนเปลือกหอมใหญ่ควรจะมีเยอะพอสมควรนะคะ ยิ่งเยอะยิ่งดี เพื่อจะได้เม็ดสีเยอะๆ ค่ะ นำเปลือกหอมใหญ่ไปต้มในน้ำเดือดๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง ตักเอาเปลือกออกให้หมด แล้วจึงใส่ผ้าส่งไป กดให้ผ้าจมน้ำเพื่อให้สีติดทั่วและไล่อากาศออกจากผ้าค่ะ ต้มไปอีกสัก 1 ชั่วโมง จากนั้นปิดไฟ ทิ้งผ้าไว้ในนั้นจนน้ำหายร้อนหรือทั้งไว้ข้ามคืนก็ได้ค่ะ ยิ่งแช่ไว้นานยิ่งทำให้สีสวยสดใส แล้วค่อยน้ำผ้ามาล้างน้ำเย็น ผึ่งให้แห้งก็เป็นอันเสร็จแล้วค่ะ
ที่มา : www.folkfibers.com

dyeing fabric with black bean / ย้อมผ้าด้วยถั่วดำblack bean in the pot / ย้อมผ้าด้วยถั่วดำleave the fabric in the black bean water / ย้อมผ้าด้วยถั่วดำ

ถั่วดำ

ย้อมผ้าด้วยถั่วดำเป็นอะไรไที่ง่ายมากเลย เพราะไม่ต้องต้มถั่วดำค่ะ เพียงแค่แช่ถั่วดำในน้ำ 24 ชั่วโมงเพื่อให้สีจากถั่วดำออกมา จะได้น้ำสีม่วงๆ ค่ะ จากนั้นก็ตักเอาเฉพาะน้ำถั่วดำใส่ไว้ในขวดโหลที่เตรียมไว้ ใส่โซเดียมคาร์บอเนตหรือโซดาแอสเพิ่มเข้าไปเล็กน้อย เพื่อปรับค่าความเป็นกรดด่างค่ะ แล้วเราจะได้น้ำอีกสีเลยค่ะ ออกเป็นสีน้ำตาลอ่อน จากนั้นนำผ้ามาแช่ในน้ำถั่วดำ ปิดผ้าหรือแรปพลาสติก ทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง หรือหากมีเวลาก็ทิ้งไว้สัก 48 ชั่วโมงเพื่อให้สีติดยิ่งขึ้น เมื่อครบกำหนดแล้วให้นำผ้ามาล้างน้ำสะอาด พึ่งให้แห้ง ผ้าสีม่วงฟ้าคือผ้าที่แช่ในน้ำถั่วดำ ส่วนผ้าสีครีมหม่นคือผ้าที่แช่ในน้ำถั่วดำผสมโซเดียมคาร์บอเนตหรือโซดาแอส ให้อารมณ์วินเทจมากเลยค่ะ
ที่มา : blog.freepeople.com

dyeing fabric with  tea / ย้อมผ้าด้วยชาtea and fabric / ย้อมผ้าด้วยชาput tea bag in the hot water / ใส่ถุงชาในน้ำร้อน

ชาถุง

ย้อมผ้าด้วยชา ชาถุงที่ขายตามซูเปอร์มาเกตทั่วไปก็สามารถนำมาย้อมผ้าให้กลายเป็นสีน้ำตาลได้นะคะ หรือย้อมผ้าลูกไม้เพิ่มอารมณ์วินเทจก็ได้เช่นกันค่ะ ก่อนอื่นเลือกซื้อชากล่องใหญ่มาเลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องใช้ยี่ห้อดังค่ะ จากนั้นต้มน้ำเดือดๆ แล้วใช้ถุงชาลงไปเลย ใส่เยอะ สีก็จะเข้มขึ้น นำผ้าสะอาดใส่ลงไปเลย ถ้าผ้ามีรอยกะดำกะด่างจะยิ่งทำให้เห็นรอยเหล่านั้นได้ง่าย ควรซักให้สะอาดก่อนนะคะ ถ้าอยากทำผ้ามัดย้อมก็ใช้หนังยางมัดผ้าก่อนจุ่มลงในสีค่ะ กดผ้าให้จมลงไปในน้ำเพื่อให้สีติดทั่ว ทิ้งไว้ 15 นาทีหรือมากกว่านั้น หากสีดูเข้มมาก็อย่าตกใจไปนะคะ เพราะเมื่อเราล้างสีออกแล้วสีจะจางลงมากค่ะ การล้างสีควรใช้น้ำเย็นผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อยเพื่อยืดอายุสีให้ติดทนขึ้นค่ะ จากนั้นนำผ้าไปซักน้ำเปล่าแล้วตากตามปกติได้เลย
ที่มา : feelandflourish.blogspot.com

dyeing fabric with hibiscus / ย้อมผ้าด้วยชบาDried Hibiscus Flowers / ตากชบาให้แห้งmaterial and tools for dyeing fabric with Hibiscus / เตรียมผ้าสำหรับย้อม

ชบา

นำดอกชบาแสนสวยมาย้อมผ้ากันดีกว่าค่ะ เริ่มจากใช้ดอกชบาแห้งประมาณ 4 กำมือใส่ลงไปในน้ำค่ะ ซึ่งปริมาณน้ำก็ให้พอท่วมผ้าที่จะย้อมนะคะ จากนั้นทิ้งไว้กลางแดดสักพักจนสีเริ่มออก แล้วจึงนำผ้าที่ต้องการย้อมใส่ลงไปค่ะ กดผ้าให้จมน้ำให้พื้นที่ทุกส่วนได้โดนน้ำ สีจะได้ติดนะคะ ทิ้งไว้อย่างน้อย 1-3 วันค่ะ คนผ้าบ้างเป็นบางครั้ง ยิ่งทิ้งไว้นาน สีจะยิ่งซึมเข้าไปในผ้าได้มากขึ้นค่ะ จากนั้นนำไปซักในน้ำสะอาด ตากให้แห้ง แล้วเราก็จะได้ผ้าสีชมพูอ่อนสุดสวยแล้วค่ะ
ที่มา : www.remodelista.com

dyeing fabric with red cabbage / ย้อมผ้าด้วยกะหล่ำม่วงchopped red cabbage boiling / ต้มกะหล่ำม่วง

กะหล่ำม่วงสีสด

ผักที่เห็นในจานสลัดบ่อยๆ ก็นำมาย้อมสีได้นะคะ ใช้กะหล่ำทั้งหัว นำมาสับ สับ สับ สับให้ละเอียดเท่าที่จะทำได้ ใส่น้ำผสมเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ ต้มให้เดือดสัก 30 นาที กรองเอาแต่น้ำไว้ค่ะ เนื้อกะหล่ำม่วงก็ทิ้งไปเลยค่ะ จากนั้นก็นำน้ำกะหล่ำม่วงขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง ใส่ผ้าหรือไหมพรมซึ่งนำไปแช่น้ำร้อนมาแล้วลงไปในน้ำกะหล่ำม่วง ต้มให้เดือดต่อไปอีกเกือบ 1 ชั่วโมง ระหว่างนั้นก็หมั่นคนผ้าหรือไหมพรมด้วยนะคะ สีจะได้ติดทั่วถึง จากนั้นนำผ้ามาซักน้ำสะอาดแล้วตากให้แห้ง จะเห็นได้ว่าสีตอนต้มในน้ำกับสีสำเร็จจะต่างกัน สีจะจางลงไปพอสมควรเลยค่ะ อ๊ะๆ…อย่าเพิ่งทิ้งน้ำไปคะ เราจะทำอะไรสนุกๆ ต่อค่ะ
ที่มา : www.laylock.org/blog

dyeing fabric with red cabbage and baking powder / ย้อมผ้าด้วยกะหล่ำม่วงและผงฟู

กะหล่ำม่วงสีสด+ผงฟู

นำน้ำกะหล่ำม่วงที่เหลืออยู่มาเปลี่ยนสีกันเถอะค่ะ ต้มน้ำกะหล่ำม่วงต่อและใส่ผงฟูลงไป น้ำกะหล่ำม่วงจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียว จะเขียวอมม่วงหรือเขียวเข้มแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผงฟูที่ใส่ลงไป ถ้ายังเป็นสีเขียวไม่ถูกใจก็ให้ใส่ผงฟูเพิ่มลงไปอีก อาจเริ่มจากใส่ 2-3 ช้อนโต๊ะแล้วจึงค่อยๆ เพิ่มปริมาณค่ะ เมื่อได้สีเขียวเฉดถูกใจแล้วก็ใส่ผ้าหรือไหมพรมซึ่งแช่น้ำร้อนมาแล้วลงไปเลยค่ะ ค่อยคนไปเรื่อยๆ ใช้เวลาต้มต่อไปอีก 1 ชั่วโมง จากนั้นนำผ้าหรือไหมพรมไปซักในน้ำสะอาดและตากให้แห้ง จะได้ออกมาเป็นสีเขียวเอิร์ธโทนสวยๆ แบบในรูป ลงมือทีเดียว ได้ตั้ง 2 สี คุ้มจริงๆ ค่ะ
ที่มา : www.laylock.org/blog

dyeing fabric with grape / ย้อมผ้าด้วยองุ่นsmashed grape / องุ่นดำ

องุ่นดำ

ใช้ผลองุ่นดำธรรมดาที่ซื้อมาจากตลาดเลย หรือจะเป็นองุ่นดำที่ไม่มีใครกินจนเริ่มไม่สดแล้วก็ยังใช้ได้ดีอยู่นะคะ นำองุ่นดำมาบดให้มีน้ำออกมาเยอะๆ แล้วต้มให้เดือด กรอกเอาแต่น้ำไว้นะคะ นำผ้าที่ต้องการย้อมสีใส่ลงไปในน้ำองุ่นดำ คนให้น้ำซึมเข้าไปในผ้าให้ทั่วเลย เมื่อผ้าติดสีม่วงทั้งผืนอย่างที่ต้องการแล้ว ก็นำมาล้างน้ำแล้วตากให้แห้งสนิท เท่านี้ก็เสร็จแล้วค่ะ จะใช้องุ่นแดงแทนองุ่นดำก็ได้เช่นกัน แต่สีที่ได้อาจจะซีดกว่ามากค่ะ
ที่มา : www.hungryghostfoodandtravel.com

dyeing fabric with flowers / ย้อมผ้าด้วยดอกไม้ต่างๆ flowers and fabric in the jar / เอาผ้าห่อดอกไม้และแช่น้ำไว้

ดอกไม้หลายชนิด

ดอกไม้อะไรบ้างก็ไม่รู้ จะได้สีอะไรก็ไม่แน่ใจ แต่ก็น่าสนุกอยู่ไม่น้อยนะคะ เพราะต้องลุ้นว่าจะได้สีอะไร เริ่มแรกเลยคือเก็บดอกไม้หลากหลายๆ ชนิดค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะว่าจะมีสีหรือไม่มี หรือว่าจะได้สีอะไร อย่าคิดมากเลยค่ะ จากนั้นนำดอกไม้เหล่านั้นมากห่อด้วยผ่าที่ต้องการจะย้อม โดยเราต้องแช่ผ้าผืนนี้ในน้ำอุ่นให้นิ่มเสียก่อนนะคะ เมื่อห่อดอกไม้เสร็จแล้วก็ใช้เชือกมัดห่อนะคะ เทน้ำใสขวดโหลหรือภาชนะอะไรก็ได้ นำผ้าห่อดอกไม้ใส่ลงไป เปิดฝาไว้นะคะ จากนั้นนำไปตากแดดอย่างน้อย 2 วันค่ะ พอโดดแดดแล้วน้ำจะเปลี่ยนสี ซึ่งสีอาจจะดูไม่สวย ดูเขียวๆ น้ำตาลหม่นๆ พอครบ 2 วันก็สามารถนำผ้าออกมาได้ค่ะ แกะเอาดอกไม้ทิ้งไป นำผ้าไปซักน้ำสะอาด ตากให้แห้ง สีที่ได้อาจจะสร้างความประหลาดใจให้คุณได้มากทีเดียวนะคะ เพราะสีที่ได้จากการผสมดอกไม้หลากหลายครั้งนี้ได้ออกมาเป็นสีชมพูค่ะ สวยไหมคะ
ที่มา : milesoflightprints.blogspot.com

 


 

 

 

 

 

Comments

16 comments