อาการปวดหัวเป็นความเจ็บไข้ไม่สบายที่พบได้บ่อย แม้จะเรียกว่าปวดหัวเหมือนกัน แต่บริเวณที่ปวดก็แตกต่างกันไป ซึ่งแบ่งได้เป็น 4 แบบคือ
1. ปวดไซนัสหรือโพรงรอบจมูก จะปวดที่เหนือตา ปวดดั้งจมูก ปวดใต้ตา
2. ปวดที่ลูกตาหรือรอบๆ ลูกตา เจ็บรุนแรงคล้ายมีอะไรมาแทงตา
3. ปวดตื้อๆ มึนๆ ที่หน้าผาก หรือปวดที่ท้ายทอยร้าวไปที่คอหรือไหล่
4. ปวดไมเกรน คือปวดตุ้บๆ ตรงกับจังหวะชีพจรหรือจังหวะการเต้นของหัวใจ ส่วนใหญ่ปวดข้างเดียวและอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือตาพร่ามัวร่วมด้วย
วิธีป้องกันอาการปวดหัวคือ
1. ลดน้ำตาล ลดแป้งขาวที่จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นเร็ว ลดเร็ว
2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่เย็นจัด ร้อนจัด
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ ภาวะขาดน้ำจะทำให้อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และปวดหัวได้
4. ไม่นั่งนาน หรืออยู่นิ่งๆ นานๆ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อบางมัดเกร็งค้างนาน เลือดไหลเวียนได้น้อยลง อาจส่งสัญญานเป็นอาการปวดหัวได้
5. ไม่นอนดึก การนอนไม่พอกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้
6. ออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ สร้างความผ่อนคลายให้ร่างกายและจิตใจอยู่เสมอ
เข้าชม : 362
|