ในการศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการบริหารงานการฝึกอาชีพชุมชน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสทิงพระ 2) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของครู/ผู้ปฏิบัติงาน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสทิงพระ ที่มีต่อการบริหารงานการฝึกอาชีพชุมชน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้ฝึกอาชีพชุมชน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสทิงพระ ที่มีต่อคุณลักษณะตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเปรียบเทียบก่อน-หลังการเข้าฝึกอาชีพชุมชน สำหรับประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ ครู/ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ฝึกอาชีพชุมชน การสุ่มกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีใช้เลือกแบบอย่างง่าย ได้ครู/ผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 17 คน และผู้ฝึกอาชีพชุมชน จำนวน 167 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความถี่ และค่า t-test dependent
ผลการศึกษา พบว่า
การบริหารงานการฝึกอาชีพชุมชน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีกรอบการบริหารงาน 2 ด้าน คือ 1) การบริหารงานการฝึกอาชีพชุมชน 2) คุณลักษณะตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นผลให้สถานศึกษาได้รับเกียรติยศ ชื่อเสียง รางวัล และมีผลงาน/โครงการดีเด่นของสถานศึกษา ในเชิงประจักษ์หลายรายการ
ครู/ผู้ปฏิบัติงานมีระดับความคิดเห็นต่อการบริหารงานการฝึกอาชีพชุมชน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสทิงพระ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยเรียงจากมากไปหาน้อย คือ ผู้อำนวยการศูนย์ กศน.อำเภอสทิงพระ มีการจัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานการจัดการการฝึกอาชีพ และ ครู/ผู้ปฏิบัติงานคิดว่าผู้ฝึกอาชีพชุมชน รู้จักใช้ชีวิตอย่างพอควรเหมาะสมกับรายได้ของตนเอง
ผู้ฝึกอาชีพชุมชนมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก่อนเข้าฝึกอาชีพชุมชน โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ผู้ฝึกอาชีพมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก่อนเข้าฝึกอาชีพชุมชน เรียงลำดับค่าเฉลี่ย คือ 1) การมีความรู้ 2) การมีคุณธรรม 3) การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ส่วนค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ ความพอประมาณ แต่หลังจากเข้าฝึกอาชีพ เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ย คือ 1) การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี 2) การมีคุณธรรม 3) การมีความรู้ ส่วนลำดับสุดท้าย คือ ความพอประมาณ
ค่าเฉลี่ยความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงก่อนเข้าฝึกอาชีพชุมชนของผู้ฝึกอาชีพชุมชน ศูนย์ กศน.อำเภอสทิงพระ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.69 ส่วนหลังเข้าฝึกอาชีพชุมชนของผู้ฝึกอาชีพชุมชน ศูนย์ กศน.อำเภอสทิงพระ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 เมื่อนำเอาค่าเฉลี่ยมาเปรียบเทียบ พบว่า ความคิดเห็นต่อคุณลักษณะตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงหลังเข้าฝึกอาชีพชุมชนของผู้ฝึกอาชีพชุมชน ศูนย์ กศน.อำเภอสทิงพระ สูงกว่าก่อนเข้าฝึกอาชีพชุมชน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05
เข้าชม : 443
|