[x] ปิดหน้าต่างนี้
 


 
กศน.อำเภอสะเดา ยินดีต้อนรับ ที่ตั้งเลขที่ ๙๘ ถนนกาญจนวนิช ตำบลสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ๙๐๑๒๐ โทร.๐-๗๔๔๑-๑๑๓๓ โทรสาร ๐-๗๔๔๖-๐๕๘๕
 

  

บทความสุขภาพ
สุขภาพ

ศุกร์ ที่ 18 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2563

คะแนน vote : 44  

 

เมื่อถึงช่วงฤดูหนาว แม้ว่าอากาศในเมืองไทยจะไม่ได้หนาวมาก แต่ในหลายๆ จังหวัดในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออาจมีอากาศหนาวเย็นมากขึ้น โอกาสที่จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บช่วงหน้าหนาวก็เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่สุขภาพทั่วไป ในกลุ่มผู้มีอาการตาแห้ง เป็นอีกกลุ่มที่ไม่ควรมองข้ามแนะหากมีอาการตาแห้งผิดปกติควรรีบพบจักษุแพทย์

อากาศหนาว เสี่ยง “ตาแห้ง”

นายแพทย์วีรวุฒิ  อิ่มสำราญ  รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ช่วงอากาศหนาวที่มาถึงนี้ นอกจากทำให้ผิวพรรณแห้งแตกเป็นขุยแล้ว ลมหนาวและแสงแดดที่ร้อนจัดยังทำให้เกิดปัญหากับดวงตา อาทิเช่น “ตาแห้ง” ได้  เพราะช่วงหน้าหนาวอากาศจะแห้งและเย็นมีผลให้น้ำที่หล่อเลี้ยงลูกตาตามธรรมชาติระเหยไปได้ง่ายกว่าปกติ 

สัญญาณอันตราย “ตาแห้ง” ผิดปกติ

ปัญหาตาแห้งอาจเกิดได้กับทุกคนโดยมีอาการและความรุนแรงของแต่ละคนแตกต่างกัน เมื่อน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาระเหยอาจไม่แสดงอาการผิดปกติหรือเกิดอาการระคายเคืองตา เหมือนมีฝุ่นทรายเข้าตาทำให้เกิดมีอาการตาแดง แสบตา โดยอาการอาจคล้ายโรคภูมิแพ้ขึ้นดวงตา กรณีตาแห้งรุนแรงที่สุดจะมีอาการอักเสบ เคืองตาอย่างรุนแรง ตาพร่ามัว

นายแพทย์เกรียงไกร  นามไธสง  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงหน้าหนาวอากาศแห้งและเย็น ทำให้น้ำที่หล่อเลี้ยงลูกตาอยู่ตามธรรมชาติระเหยไปได้ง่ายกว่าปกติ เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครก็ตามอาจจะเจอปัญหานี้ได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแต่ละคน ผู้ที่ตาแห้งอาจมีอาการแสบตา ปวดตา เคืองตา มีขี้ตาเป็นเมือก ตาพร่ามัว มองไม่ชัด

กลุ่มเสี่ยงอาการตาแห้ง

สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดปัญหาตาแห้ง คือ 

  • กลุ่มผู้สูงอายุ 
     
  • ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ 
     
  • กลุ่มบุคคลที่ทำงานอยู่กลางแจ้ง เจออากาศแห้งและลมแรง 
     
  • กลุ่มคนที่ใช้สายตามาก เช่นกลุ่มที่ทำงานต้องเพ่งนานๆ เช่น อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ 
     
  • กลุ่มที่รับประทานยาบางอย่าง ซึ่งอาจทำให้ตาแห้งง่ายกว่าปกติ เช่น ยาลดความดัน ยาแก้แพ้ ดังนั้น 
 

หากมีปัญหากับดวงตาหรือมีอาการผิดปกติควรพบจักษุแพทย์

วิธีดูแลดวงตา ลดเสี่ยงตาแห้ง

สำหรับการดูแลดวงตาไม่ให้มีอาการตาแห้ง ทำได้ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการออกแดด หรือโดนลม สวมแว่นกันแดดหรือหมวกทุกครั้งที่ออกแดด
     
  2. หลีกเลี่ยงการใช้สายตา หรือการเพ่งนานๆ หากมีการใช้สายตา ควรพักสายตาเป็นระยะ ทุก 30-60 นาที
     
  3. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายเพื่อทำให้ตาชุ่มฉ่ำ และเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำเวลาอยู่กลางแจ้ง
     
  4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
     
  5. รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา เช่น ผัก ผลไม้ ปลา รวมถึงอาหารที่มีกรดไขมันจำเป็น กลุ่มโอเมก้า-3
     
  6. ใช้น้ำตาเทียมเพื่อบรรเทาอาการตาแห้งเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา มีทั้งชนิดน้ำและเจล โดยส่วนใหญ่อาการตาแห้งไม่ได้ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อดวงตามากนัก แต่สร้างความรำคาญให้กับผู้ป่วยมากกว่า

ประชาชนจึงควรที่จะรู้จักกับอาการตาแห้งเพื่อจะได้ไม่เกิดอาการวิตกกังวลจนเกินเหตุ รวมถึงจะได้สามารถตั้งรับ รู้วิธีการรักษาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถสังเกตอาการง่ายๆ คือ รู้สึกไม่สบายตา ระคายเคือง แสบตา ให้สงสัยว่าอาจเข้าข่ายอาการนี้ หากมีอาการที่รุนแรงแนะนำให้พบจักษุแพทย์



เข้าชม : 420


บทความสุขภาพ 5 อันดับล่าสุด

      สุขภาพ 18 / ธ.ค. / 2563
      ใครที่ชอบทานเต้าหู้ 19 / มิ.ย. / 2551
      อาบน้ำให้หมดจด ห่างไกลโรคภัย 27 / เม.ย. / 2551
      สะอึก (hiccup) 4 / ก.พ. / 2551


 

ศูนย์การเรียนรู้ตำบลท่าโพธิ์  ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอสะเดา  
หมู่ 1 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา 90170 
โทร
.074-411460 , โทรสาร 0-7446-0585

สล็อตเว็บตรง Powered by MAXSITE 1.10   Modify by   นิกร เกษโกมล   Version 2.05