ความรู้เกี่ยวกับ IT วิธีคลายร้อนง่าย ๆ รับมือซัมเมอร์สุดฮอต โอ๊ย...จะทนไม่ไหวแล้ว
พุธ ที่ 15 เดือน มีนาคม พ.ศ.2560
|
|
วิธีคลายร้อนสุดง่ายที่ทำได้ด้วยตัวคุณเอง ไม่อยากร้อนจนเหงื่อออกท่วมตัวต้องลองทำ รับรองว่าเด็ดจริงอะไรจริง
หน้าร้อนทีไร อากาศร้อน ๆ ทำให้รู้สึกอารมณ์เสียไปเสียทุกที ยิ่งนับวันโลกก็ยิ่งร้อนขึ้น พาลทำให้อากาศนั้นร้อนมากขึ้นจนแทบจะไหม้ จะไปเที่ยวทะเลให้สบายใจก็ร้อนแสบผิว บางวันเดินออกไปหน้าบ้านก็ร้อนจนหมดแรง แบบนี้ก็ต้องมาหาวิธีคลายร้อนมาช่วยบรรเทาความร้อนที่คุกคามแล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้นลองไปดูวิธีคลายร้อนเหล่านี้ ที่รับรองว่าช่วยได้ ใครที่กำลังนั่งเหงื่อตกกับอากาศแบบนี้ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปลองทำดูกันเลย
ดื่มน้ำเยอะ ๆ
หมั่นจิบน้ำบ่อย ๆ ตลอดทั้งวัน หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง แม้แต่น้ำผลไม้ที่หวานมาก ๆ ก็ควรจะเลี่ยงให้ไกล และถ้าอยากให้รู้สึกสดชื่นกว่าเดิมลองหยดน้ำยาอุทัยลงไปสักหยดสองหยด รับรองเย็นแน่นอน
ลดกิจกรรมกลางแจ้ง
หากไม่มีความจำเป็นก็ควรจะอยู่ในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก แต่ถ้าหากต้องอยู่กลางแจ้งก็ควรจะสวมหมวก และแว่นกันแดดหรือกางร่มค่ะ
ใช้ม่านบังแดด
หากอยู่ในห้องที่แดดส่องจัด ควรจะใช้ม่านบังตาหรือดึงผ้าม่านลงเพื่อป้องกันแสง แต่ไม่ต้องปิดหน้าต่าง เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
อาบน้ำบ่อย ๆ
ในช่วงฤดูร้อน การอาบน้ำบ่อย ๆ นี่ล่ะจะช่วยคลายร้อนได้ หรือจะว่ายน้ำก็ช่วยให้หายร้อน ๆ ได้เหมือนกันค่ะ และถ้าอยากให้เย็นสดชื่นถึงใจไปยิ่งกว่าเดิมก็ลองหาแป้งเย็นมาทาดูค่ะ รับรองเลยเย็นสุดขั้วแน่นอน
รับประทานอาหารเบา ๆ
หลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก เปลี่ยนมารับประทานอาหารที่มีน้ำเยอะ ๆ เช่น แตงโม แคนตาลูป จะทำให่ร่างกายไม่ต้องทำงานหนักและช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำอีกด้วย
สวมเสื้อผ้าสีอ่อนและระบายอากาศได้สะดวก
เสื้อผ้าสีอ่อนจะดูดซับความร้อนจากแสงแดดน้อยกว่าเสื้อผ้าสีเข้ม และควรเน้นสวมเสื้อผ้าคอนตอนที่โปร่งและระบายอากาศได้ง่าย
ออกไปเดินเล่นตามห้าง
ถ้าไม่อยากเสียค่าไฟไปกับการเปิดเครื่องปรับอากาศละก็ ลองออกไปเดินเล่นตามห้างหรือไม่ก็เดินตามสวนสาธารณะที่ร่มรื่น แม้ในสวนสาธารณะจะไม่เย็นเท่าในห้างสรรพสินค้า แต่ก็อากาศถ่ายเทกว่าการอยู่แต่ในบ้านแน่นอนค่ะ
ใช้สเปรย์พ่นน้ำ
ถ้าอยากให้เย็น ๆ แบบไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศ ก็ลองนำน้ำใส่ในขวดสเปรย์เล็ก ๆ แล้วนำไปแช่ไว้ในตู้เย็น เวลาร้อนก็นำออกมาฉีดหน้าเหมือนเวลาใช้สเปรย์น้ำแร่ก็ทำให้รู้สึกสดชื่น ได้เหมือนกันนะ
ใช้คูลแพ็กประคบที่ข้อมือ
คูลแพ็กนอกจากจะช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บได้แล้ว เวลาร้อน ๆ ลองนำคูลแพ็กมาประคบที่ข้อมือเป็นการลดอุณหภูมิให้เลือดในร่างกายสามารถทำ ให้รู้สึกเย็นขึ้นได้ค่ะ
ลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้านอกจากจะกินไฟทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นแล้ว ยังสร้างความร้อนให้เราอีกด้วย ยิ่งถ้าอยู่ในห้องเล็ก ๆ ละก็ แค่เปิดทีวี เปิดไฟ เปิดคอมพิวเตอร์พร้อมกัน ก็รู้สึกร้อนได้แล้วล่ะค่ะ ดังนั้นถ้าหากไม่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นไหนก็ควรปิดและถอดปลั๊กให้เรียบ ร้อย
เปิดเครื่องปรับอากาศ
วิธีง่ายสุด ๆ ในการคลายร้อนก็คือการเปิดเครื่องปรับอากาศนี่ล่ะค่ะ แต่ก็ควรหมั่นเช็กไส้กรองอากาศบ่อย ๆ นะคะ เพราะไส้กรองที่สกปรกก็ทำให้แอร์ไม่เย็น แถมกินไฟอีกด้วย
ใช้พัดลมมือถือ
หากคุณต้องออกไปกลางแจ้ง ลองพกพัดลมมือถือเอาไปใช้งานด้วย ร้อนตรงไหนก็เปิดตรงนั้น แม้จะไม่ช่วยให้เย็นสบายเท่าพัดลมหรือแอร์ที่้บ้าน แต่ก็ช่วยคลายร้อนได้นะ
รับประทานสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น
สมุนไพรไทยหลายชนิดมีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกายได้เช่น ฟ้าทะลายโจร หรือจะเป็นเครื่องดื่มจากสมุนไพรเย็น ๆ อย่างน้ำเก็กฮวย ซึ่งถ้าใครสะดวกแบบไหนก็ลองหามารับประทาน แต่ถ้าใครอยากลองฟ้าทะลายโจรก็ลองหาที่เป็นแบบเม็ดแคปซูลก็จะรับประทาน ง่ายขึ้นนะคะ
รับประทานอาหารเผ็ด
หลายคนอาจจะแปลกใจว่าวิธีนี้จะได้ผลแน่เหรอ ไม่ทำให้ท้องเสียใช่ไหม ขอบอกเลยค่ะว่าการกินของเผ็ดเนี่ยล่ะช่วยคลายร้อนได้ เพราะเมื่อเรารับประทานของเผ็ด เราก็จะมีเหงื่อออกมากขึ้น เมื่อเหงื่อออกมากขึ้นเราก็จะรู้สึกเย็นสบายตัว แต่ก็อย่ากินเผ็ดเกินไปล่ะไม่อย่างนั้นท้องเสียแน่นอนเลย
ทานไอศกรีม
วิธีนี้ล่ะง่ายสุด ๆ เพราะไอศกรีมนอกจากจะช่วยให้เราเย็นลงแล้วก็ยังช่วยทำให้สดชื่นมากขึ้น อีกด้วยล่ะ แต่ก็อย่าทานเยอะเกินไปนะไม่อย่างนั้นอาจจะอ้วนได้ค่ะ
ออกกำลังกายเบา ๆ
เวลาที่อากาศร้อน ๆ อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกหงุดหงิด ถ้าอย่างนั้นลุกขึ้นมาออกกำลังกายเบา ๆ ดูสิ นอกจากจะช่วยให้เหงื่อออกแล้วก็ยังทำให้ผ่อนคลายอีกด้วย แล้วอย่าลืมจิบน้ำตามไปด้วยนะ
เปิดหน้าต่างในตอนกลางคืน
ในหน้าร้อน เวลากลางคืนมักจะเย็นกว่าตอนกลางวัน ดังนั้นเพื่อระบายความร้อนที่มาจากตอนกลางวัน ขณะที่นอนหลับก็ควรเปิดหน้าต่างให้กว้างเพื่อให้อากาศถ่ายเท จะช่วยให้ในบ้านเย็นขึ้นค่ะ
สวมหมวกปิดต้นคอด้านหลัง หรือใช้ผ้าเย็นประคบ
บริเวณต้นคอด้านหลังเป็นบริเวณควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย หากบริเวณต้นคอด้านหลังร้อนมาก ๆ ก็จะทำให้เรารู้สึกร้อนได้เช่นกัน
รับประทานผลไม้
ผลไม้บางชนิด เช่น แตงโม มะพร้าว หรือแม้แต่สัปปะรด ก็สามารถช่วยทำให้เรารู้สึกเย็นขึ้นได้ แถมยังทำให้สดชื่นอีกด้วย หากรู้สึกร้อนเมื่อไรลองรับประทานผลไม้ดูนะได้ผลแน่นอน
ไปว่ายน้ำ
การว่ายน้ำเป็นกิจกรรมคลายร้อนที่ดีและง่ายสุด ๆ เลย ไม่จำเป็นต้องว่ายเก่งค่ะ แค่เพียงคุณลงไปแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำก็ทำให้รู้สึกเย็นได้ หรือถ้าจะออกกำลังกายในน้ำไปด้วยก็เก๋ไปอีกแบบเลยล่ะ
สวมรองเท้าที่โปร่งและเลี่ยงการสวมถุงเท้า
เท้าถือเป็นอีกอวัยวะหนึ่งที่มีส่วนในการระบายความร้อนในร่างกาย ดังนั้นในช่วงหน้าร้อน ถ้าไม่จำเป็นอย่าสวมถุงเท้าและควรสวมรองเท้าที่โปร่งระบายอากาศได้ เพราะจะทำให้เท้าไม่อับ และช่วยให้ร่างกายระบายความร้อนผ่านทางเท้าได้ดีขึ้น
นวดด้วยน้ำมัน
น้ำมันอาจจะทำให้รู้สึกเหนอะหนะแต่ถ้าหากนวดด้วยน้ำมันสำหรับนวดโดยเฉพาะ ไม่เพียงแต่ทำให้รู้สึกสบายยังช่วยให้ร่างกายเย็นลงได้ด้วยล่ะ
ดื่มน้ำมะนาว
น้ำมะนาวมีฤทธิ์ช่วยให้ร่างกายสดชื่น กลิ่นเปรี้ยว ๆ ของมะนาวจะช่วยให้สมองปลอดโปร่งมากขึ้น ไม่รู้สึกหงุดหงิดกับอากาศร้อน ๆ แถมยังช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายอีกด้วย
รับประทานน้ำแข็ง
หน้าร้อน อะไรจะดีไปกว่าเครื่องดื่มใส่น้ำแข็งเย็น ๆ อีกล่ะ แต่ก็ควรระมัดระวังความสะอาดของน้ำแข็งด้วย ทางที่ดีทำน้ำแข็งเองนี่ล่ะค่ะดีที่สุดเลย
นอนกับพื้น
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้วค่ะที่จะทำให้คลายร้อนได้ เพราะตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วอากาศร้อนมักจะลอยตัวสูง และอากาศที่เย็นกว่าจะลอยต่ำ การนอนลงกับพื้นจะช่วยให้เราได้สัมผัสอากาศที่เย็นนั่นเอง และถ้านอนในห้องทีเป็นพื้นกระเบื้องก็จะยิ่งเย็นกว่าเดิมเลยล่ะ
เป็นยังไงคะกับ 25 วิธีคลายร้อนแบบง่าย ๆ ที่ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา ใครสะดวกวิธีไหนก็ลองหยิบไปใช้นะคะ และที่สำคัญหน้าร้อนแบบนี้ก็อย่าใจร้อนเป็นดีที่สุด ใจเย็น ๆ ทำอะไรให้ช้าลงบ้าง เพราะหากเราใจเย็นและอารมณ์ดี ต่อให้อากาศร้อนยังไง เราก็จะรู้สึกร้อนน้อยกว่าปกติแน่นอนค่ะ
เข้าชม : 987
|
|
ความรู้เกี่ยวกับ IT 5 อันดับล่าสุด
ดาวเรือง ดอกดาวเรือง ชนิดของดาวเรือง การใช้ประโยชน์ วิธีการปลูกดาวเรือง 4 / ก.ค. / 2560
โรคพิษสุนัขบ้า 7 / พ.ค. / 2560
หัดใช้น้ำเกลือล้างหน้า เช็ดหน้า 24 / มี.ค. / 2560
วิธีคลายร้อนง่าย ๆ รับมือซัมเมอร์สุดฮอต โอ๊ย...จะทนไม่ไหวแล้ว 15 / มี.ค. / 2560
5 สัญญาณปวดหลัง เตือนโรคอันตราย 26 / ก.พ. / 2560
|