สนหอม มีชื่อวิทยาศาสตร์เฉพาะคือ CHAMAECYPARIS LAWONIANA ชื่อสามัญ ELLWOOD’S GOLD

อยู่ในวงศ์ CUPRESSA CEAE

มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดเล็ก สูง 5-10 เมตร

ลำต้นเดี่ยว ตั้งตรง แตกกิ่งก้านต่ำ เป็นรูปทรงฉัตรเหมือนกับต้นคริสต์มาส

เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาลเข้ม ผิวเปลือกมีร่องแตกตามยาวทั่วทั้งต้น

เนื้อไม้แข็งและเบา

โดยธรรมชาติของต้น “สนหอม” จะขึ้นอยู่ในป่าดิบชื้น

กิ่งแขนงหนาแน่นเป็นมุมฉากกับลำต้น หรือเฉียงเล็กน้อยประมาณ 45 องศากับลำต้น

ส่วนยอด ของต้นหรือนิยมเรียกกันว่าฉัตรจะเป็นพุ่มแหลม

ใบมีขนาดเล็กมาก ลักษณะเป็นฝอยๆออกตรงกันข้าม 3 ใบ ใบเป็นรูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบติดอยู่กับก้านหรือกิ่งแขนงและลำต้น

เนื้อใบค่อนข้างหนาและแข็ง มีกลิ่นหอมเย็นตามที่กล่าวข้างต้น ทำให้แมลงต่างๆไม่บินเข้าไปรบกวน เวลาต้นสมบูรณ์ใบจะดกหนาแน่นมาก

ใบสีเขียวสดหรือสีเขียวอ่อน มองดูเหมือนกับสีทองน่าชมยิ่งนัก

ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง

วิธีการดูแลรักษา  แสงแดด: ชอบแดดมาก - แดดจัด น้ำ: ต้องรดน้ำจนชุ่ม จนซึมถึงก้นกระถาง เพราะเมื่อต้นไม้ออกแดดจะดื่มน้ำเก่ง อากาศ: เขาชอบอากาศปลอดโปร่งค่ะ ปุ๋ย: ใช้ปุ๋ย 16-16-16 เพื่อเสริมธาตุอาหาร

สนหอม มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมจากประเทศฮอลแลนด์ แล้วกระจายพันธุ์ปลูกตามประเทศต่างๆ ในเขตร้อนทั่วไป รวมทั้งประเทศไทยด้วย ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์นานมากแล้ว จนหลายๆคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไม้ของประเทศไทยไปโดยปริยาย มีลักษณะประจำพันธุ์คือใบสดอยู่บนต้นจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวเป็นเอกลักษณ์ ถูกลมพัดแรงๆกลิ่นหอมของใบจะโชยเข้าจมูกคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ประมาณ 1–2 เมตรเป็นที่ชื่นใจยิ่ง หากใช้ฝ่ามือปัดเบาๆที่ใบบนต้น หรือลูบแล้วเอาฝ่ามือมาดมดูจะได้กลิ่นหอมดังกล่าวเหมือนกับกลิ่นของมะนาว หรือกลิ่นของตะไคร้สดชื่นยิ่งนัก ยิ่งถ้าเด็ดใบสดขยี้แล้วดมจะได้กลิ่นหอมแรงยิ่งขึ้นอีกด้วยเป็นเรื่องแปลกมาก

ผู้รวบรวมข้อมูล  : ห้องสมุดประชาชนอำเภอหาดใหญ่ ศูนย์บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอหาดใหญ่