ลักษณะทั่วไปของทานตะวัน
สำหรับต้นทานตะวันนั้นจัดเป็นไม้ล้มลุก โดยมีอายุอยู่ที่ประมาณ 1 ปี ซึ่งลำต้นจะตั้งตรงมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 3 – 3.5 เมตร และบริเวณลำต้นนั้นจะมีขนแข็งๆ สีขาวยาวๆ ขึ้นปกคลุมอยู่ ส่วนใบของทานตะวันนั้นจะออกเป็นใบเดี่ยว แบบตรงข้ามกัน เป็นรูปทรงรีค่อนไปทางกลม หรืออาจเป็นรูปหัวใจก็มี โดยใบจะมีตั้งแต่สีเขียวอ่อนจนถึงเขียวเข้มเลยทีเดียว และดอกของต้นทานตะวันนี้เรียกว่ามีความโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นดอกเดี่ยวที่มีลักษณะค่อนข้างใหญ่สีเหลืองเข้มออกดอกบริเวณปลายยอด และมีกลีบดอกจำนวนมากอยู่ขึ้นแบบเรียงกันเป็นชั้นๆ ส่วนผลหรือเมล็ดทานตะวันนั้น จะเป็นผลแห้งๆ มากมายอยู่ตรงบริเวณฐานของดอกทานตะวัน ซึ่งผลขนาดใหญ่จะอยู่ในวงรอบนอกต้น ส่วนผลเล็กจะอยู่ใกล้ๆ กับกึ่งกลางต้น โดยผลจะมีลักษณะเป็นทรงรีแบนและนูน แหลมด้านหนึ่งมนด้านหนึ่ง โดยภายในเมล็ดมีผลสีเหลืองอ่อนอยู่ 1 เมล็ด สามารถนำมารับประทานได้ รวมทั้งมีน้ำมันเป็นจำนวนมากอีกด้วย ซึ่งก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เช่นเดียวกัน

ลำต้นและดอกทานตะวัน

ประโยชน์และสรรพคุณของทานตะวัน
ใบ – ช่วยรักษาโรคเบาหวาน และแก้อาการหืด ให้รสเฝื่อน
ดอก – ช่วยขับลม แก้อาการวิงเวียนศีรษะ และแก้หลอดลมอักเสบ ให้รสเฝื่อน
ฐานรองดอก – ช่วยแก้อาการปวดท้อง ปวดศีรษะ รวมทั้งแก้โรคกระเพาะอักเสบ แก้ปวดฟัน และปวดประจำเดือน ให้รสเฝื่อน
เมล็ด – ช่วยรักษาโรคหนองใน แก้โรคบิด รวมทั้งบรรเทาอาการไข้หวัด และช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ ให้รสเฝื่อนมัน
น้ำมันจากเมล็ด – ช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด ให้รสร้อน
เปลือกเมล็ด – ช่วยแก้อาการหูอื้อ ให้รสเฝื่อน
แก่น (ไส้ลำต้น) – ช่วยขับนิ่วในไต รวมทั้งแก้อาการปัสสาวะออกมาเป็นเลือด ช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการไอกรน ตลอดจนรักษาเนื้องอกเยื่อบุผิวถุงน้ำคร่ำ ครรภ์ไข่ปลาอุก หรือมะเร็งในกระเพาะอาหาร โรคฝีเต้านม และช่วยลดความดันโลหิต

เมล็ดทานตะวัน

สำหรับเมล็ดทานตะวันนั้นนับว่าเป็นพืชที่อุดมไปด้วยคุณค่าและประโยชน์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว แถมยังมีทั้งแบบกะเทาะเปลือกรับประทานสะดวก หรือแบบเต็มเมล็ดให้ได้นั่งทานกันเพลินๆ แถมยังมีแบบเพิ่มรสชาติความอร่อยด้วยรสชาติต่างๆ อีกมากมายเลยทีเดียว เรียกว่าอร่อยได้คุณค่า อุดมประโยชน์กันแบบเต็มๆ เมล็ดกันเลยทีเดียว