วันนี้ในอดีตเมื่อ 77 ปีที่แล้ว ตรงกับวันที่ 26 มีนาคม 2483 วันเกิด เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ นักประพันธ์ชาวไทย ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2536 กวีรางวัลซีไรต์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด เรียนเชิญสื่อมวลชนร่วมแถลงข่าว เปิดตัวหนังสือ “30 ปี ข้างคลองคันนายาว”
หนังสือกวีที่รวบรวมข้อคิดเตือนใจ ตีแผ่ปัญหาสังคมในแต่ละห้วงเวลา และอีกหลากหลายแนวในมุมมองสะท้อนสังคมและประวัติศาสตร์ไทยผ่านงานกวีนิพนธ์ ที่กลั่นมาจากหัวใจ...เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ และกวีซีไรต์
มาร่วมพบว่าประเทศไทย มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป อะไรที่ควรเรียนรู้ อะไรที่ควรจะจำ ภายในงานยังมีไฮไลท์โชว์การต่อกลอนสดด้นกวี กับ celeb คนดัง สินจัย เปล่งพานิช อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และดร.อภิชาติ ดำดี
พบกับการเปิดตัวคอลเลคชั่นหนังสือทรงคุณค่าแห่งปี ในวันอังคาร ที่ 28 มีนาคม 2560 เวลา 16.00 – 18.30 น. ณ ลานปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
คำประกาศเกียรติคุณ ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2536 :
“เป็นกวีที่สร้างสรรค์ผลงานหลากหลายรูปแบบ ผลงานสร้างสรรค์สะท้อนความดื่มด่ำในสมบัติวรรณศิลป์ไทยด้วยการใช้ฉันทลักษณ์หลากรูปแบบ ให้ความสำคัญกับความเสนาะพริ้งพรายของลำนำกวี และการถือวรรณคดีโบราณเป็นครูอย่างเคารพ
เป็นกวีที่ศึกษาวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง ดื่มด่ำกับดนตรีไทย และเข้าถึงพุทธธรรมอย่างแตกฉาน ทำให้การสร้างสรรค์กวีนิพนธ์แฝงปรัชญาแห่งพุทธธรรมไว้อย่างประณีตงดงาม เป็นกวีผู้สร้างสรรค์สืบสานกวีนิพนธ์จากแบบนิยมและสมบัติวรรณศิลป์ไทยได้อย่างสมบูรณ์
ทั้งยังได้พัฒนาสมบัติวรรณศิลป์ไทยเพื่อใช้สื่อสารกับคนไทยร่วมสมัยได้อย่างประทับใจมีประสิทธิภาพยิ่ง บ่งบอกถึงความเป็นปราชญ์ทางภาษาและการสร้างสรรค์สุนทรียารมณ์อันงดงาม”
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เกิดที่บ้านพนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เป็นบุตรคนโตและเป็นผู้ชายคนเดียวในจำนวนพี่น้อง 5 คนเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดบ้านทวน และต่อชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนวิสุทธรังษี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด
จากนั้นได้ศึกษาต่อชั้นเตรียมอุดมศึกษาที่โรงเรียนทวีธาภิเศก และจบปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2508
ครอบครัวของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ชอบการแต่งโคลงกลอน ชอบดนตรีไทย มารดาชอบอ่านวรรณคดี เขาจึงอ่านหนังสือได้ตั้งแต่อยู่ชั้นประถมปีที่ 1 เป่าขลุ่ยได้ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เขาเป็นคนช่างคิดช่างสังเกตมาตั้งแต่เด็กๆ
ขณะที่เนาวรัตน์กำลังศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 3 ที่โรงเรียนวิสุทธรังษีอยู่นั้น เนาวรัตน์ได้พบโคลงสี่ที่บิดาเขียนไว้เมื่อยังหนุ่ม จึงเกิดแรงบันดาลใจเขียนโคลงส่งไปลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เขาเริ่มเขียนกลอนเมื่อชั้นมัธยมปีที่ 5 - 6 และเขียนจริงจังช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ช่วงนั้นเขาไม่ค่อยได้เรียนหนังสือ ชอบเอลวิส เพรสลีย์เป็นชีวิตจิตใจ ไว้ผมทรงเดียวกับเอลวิส พกหนังสือ I.S. Song Hits กว่าจะเรียนจบปริญญาตรีที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงใช้เวลาถึง 7 ปี
หลังจากเรียนจบแล้วไปบวช ระหว่างปี 2511-12 หลังจากลาสิกขาแล้วได้ไปทำงานอยู่ในกองบรรณาธิการ นิตยสาร วิทยาสาร ของ ไทยวัฒนาพานิช
เมื่อปี 2514 เนาวรัตน์แต่งงานกับคุณประคองกูล อิศรางกูร ณ อยุธยา มีมีบุตรธิดา 2 คน คือ ประคำกรองและแก้วเก้า เนาวรัตน์เคยเป็นอาจารย์สอนวิชาการประพันธ์อย่างสร้างสรรค์ที่ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เนารัตน์ มีผลงานที่ได้รับรางวัล เช่น ปี 2516 บทกวี “อาทิตย์ถึงจันทร์” บันทึกเรื่องราวช่วง 14 ตุลาคม 2516 ได้รับรางวัลชมเชยพิเศษวรณกรรมบัวหลวงของธนาคารกรุงเทพจำกัด
ปี 2521 บทกวี “ชักม้าชนเมือง” ได้รับรางวัลดีเด่นงานสัปดาห์หสังสือแห่งชาติ, ปี 2523 บทกวี “เพียงความเคลื่อนไหว” ได้รับรางวัลซีไรต์หรือวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน, ปี 2527 บทกวี “เพียงขลู่ยผิว” ได้รับรางวัลดีเด่นงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
เมื่อปี 2533 - 2536 เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เดินทางไปทั่วประเทศเพื่อเขียนบทกวีบันทึกเรื่องราวของทุกจังหวัดไว้ในผลงานชุด "เขียนแผ่นดิน" โดยทูลเกล้าถวายต่อองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 60 พรรษา
นับเป็นผลงานเอกที่ส่งผลให้ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประกาศให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ เมื่อ ปี 2536 และได้รับฉายาว่าเป็น "กวีรัตนโกสินทร์"
คือบทเพลง แห่งพระองค์ พระทรงชัย
ทรงฝากพระ หฤทัย ไว้กล่อมหล้า
เมื่อยามเย็น พยับโพยม โคมชีวา
เพลงจะปลุก ใจประชา กล้าก้าวนำ
ปลอบชีวัน ปลุกชีวา พาชีวิต
ให้รู้ทิศ รู้ทาง รู้ย่างย่ำ
คือแสงเทียน แสงทอง ที่ส่องธรรม
อันกระจ่าง อยู่ประจำ เทิดธำรง
ขอจงทรง ชำนะภัย ในสารทิศ
ขอจงทรง ทศพิธพระ ธรรมประสงค์
ขอจงทรง พระชนม์ชื่น อยู่ยืนยง
ขอจงทรง พระเจริญ...ทรงพระเจริญฯ
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ พ.๓๐/๑๑/๕๓
เข้าชม : 412
|