วัดถ้ำตลอด
ประวัติและความเป็นมา
ก่อนจะมาเป็นวัดถ้ำตลอดที่โยงใยกับรัฐลังกาสุกะ ซึ่งเป็นรัฐที่เก่าแก่และเจริญที่สุดในคาบสมุทร มลายา ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือ ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2 ระหว่าง ค.ศ. 80-100 หรือ ประมาณ พ.ศ. 623 – 643 หรืออาจจะตั้งมาก่อน คริสต์ศตวรรษก็ได้ มีการเรียกหลายชื่อ กล่าวคือ จีน เรียกว่า หลางหยาสิว LANG YA HSIU หลางซีเจีย LANG SHI CHIA หลางหยาซู LANG YA HSIU หลางหยาLANG YA อารับ เรียกว่า ลันกอซูกา – ลังกอซูกา อินเดีย เรียกว่า อิลังกาโสกา LANG KAH SUKA
คำว่า ลังกาสุกะ มาจากภาษามลายูคำว่า A LANG KAH SUKA แปลว่า มีความสุขสำราญ สนุกสนานอย่างมาก อาณาเขตของลังกาสุกะ ครอบคลุมดินแดนต่างๆ ทางฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมลายูด้านอ่าวไทย ตั้งแต่สงขลาถึงกลันตัน ทางฝั่งตะวันตกด้านอ่าวเบงกอลจดเกดาห์ ทางทิศใต้ถึงสิงคโปร์ ทางทิศเหนือจดนครศรีธรรมราช หรือจดประเทศพันพัน/พานพาน/น่าจะเป็นอำเภอพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ประวัติศาสตร์นี้ได้จากนักประวัติศาสตร์ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่ได้บันทึกเอาไว้ในประเทศจีน ชื่อว่า เหลียงซู
เหลียงซู นักประวัติศาสตร์ชาวจีนได้บันทึกไว้ว่า หลางหยาสิว ตั้งอยู่ทางทะเลใต้ หนานไห่มีอาณาเขตจากพรมแดนตะวันออกถึงพรมแดนทิศตะวันตกใช้เวลาเดินทางด้วยเท้า 30 วัน จากพรมแดนทิศเหนือถึงพรมแดนทิศใต้ใช้เวลาเดินทางด้วยเท้า 20 วัน อยู่ห่างจากกวางเจา (กลางตุ้ง) 24,000 ลี้ ภูมิประเทศและผลผลิตคล้ายประเทศฟูนัน (FUNAN) เส้นทางคมนาคมทางบกระหว่างฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรมลายาถึงรัฐลังกาสุกะ ใช้ช้างเป็นพาหนะโดยใช้เลียบลำน้ำเป็นแนวทางสำคัญ เส้นทางที่ใช้มี 2 เส้นทาง และทั้งสองเส้นทางใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 เดือน 25 วันจากเมืองหลวงที่บ้านกรือเซะ CKERSIK สู่ยะรัง เมืองลังกาสุกะเดิม ผ่าน บ.ยาบี - บ.โคกหมัก-บ.ปรักปรือ อ.หนองจิก สู่ บ.แม่กัง บ.ยางแดง อ.โคกโพธิ์ ผ่านช่องเขา บ.นาค้อ- บ.ป่าลาน–บ.ป่าบอน ข้ามช่องเขาสันกลาคีรี – สู่ บ.ควนหินกอง บ.คูหา บ.ถ้ำตลอด –บ.สวนชาม อ .สะบ้าย้อย เข้าสู้เมืองไทรบุรี โดยคาดว่าออกทางบ.ทุ่งไทรแจ้ ม.5ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มีเนื้อที่ตั้ง วัดได้ประมาณ 20 ไร่ ฯลฯ วัดถ้ำตลอด ตั้งอยู่ ม.6 ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มีเนื้อที่ตั้ง วัดได้ประมาณ 20 ไร่ 88 ตารางวา ไม่รวมด้านหน้าวัด 14 ไร่ 3 งาน 14 ตารางวา
วัดถ้ำตลอดมีเจ้าอาวาสปกครองวัดเท่าที่พอจำความได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้ดังนี้
1. พ่อท่านแก่นจันทร์ มรณภาพ
2. พ่อท่านยอด มรณภาพ
3. พ่อท่านแก้ว มรณภาพ
4. พ่อท่านพุธ มรณภาพ
5. พ่อท่านเสาร์ มรณภาพ
6. พ่อท่านหนู มรณภาพ
7. พ่อท่านปาน (หมวก) ลาสิกขา
8. พ่อท่านทองแก้ว (เดิมพรม) ลาสิกขา
9. พ่อท่านเอียด (จากคลองทราย) ลาสิกขา
10. พ่อท่านชม (ช่วยประสม) ลาสิกขา
11. พ่อท่านชุ่ม ย้ายไปอยู่วัดเขตตาราม (ทุ่งข่า)
12. พ่อท่านอินทร์ (คงสุวรรณ) ลาสิกขา
13. พ่อท่านติ (ศรีทวีวัฒน์) ลาสิกขา
14. พ่อท่านทองแก้ว (เดิมพรม) ลาสิกขา
15. พระครูกุศลธรรมธาดา (วุ่น) มรณภาพ
16. พระปลัดกล้าย ญาณสำโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส แต่งตั้งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2534
17. พระปลัดกล้าย ญาณสำโร (ไชยชาย) แต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2548
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดถ้ำตลอด ม.6 ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันพระอาจารย์ปลัดกล้าย ญาณสํวโร ก็ยังใช้ถ้ำแห่งนี่เป็นที่สงบจิตวิปัสสนาอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ภายในวัดถ้ำตลอดยังมีโบราณวัตถุและโบราณสถานอยู่หลายแห่ง ถ้ำและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย ชาวบ้านในแถบตำบลเขาแดงและเขตอำเภอใกล้เคียง ให้ความเคารพศรัทธาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ อย่างเช่นถ้ำพระนอนใหญ่ภายในวัดถ้ำตลอดซึ่งอยู่ด้านล่างใต้ภูเขาวัดถ้ำตลอดมีลักษณะเป็นห้องโถงใหญ่ ซึ่งบรรจุคนได้หลายร้อยคน จะมีบันไดขั้นไปนมัสการพระนอนองค์ใหญ่หรือพระปางไสยยาตร์อยู่ภายในถ้ำ อายุราวๆ ประมาณ 300 กว่าปี สร้างเมื่อคราวสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง รอบพระนอนจะเป็นพระเรียงรายล้อมรอบ ชาวบ้านเชื่อกันว่าคงจะสร้างในคราวหลวงปู่ทวดท่านยังมีชีวิติอยู่ ออกจากห้องโถงใหญ่เดินตรงขึ้นไปทางทิศใต้ประมาณ 30-40 เมตร ก็จะพบถ้ำอีกแห่งหนึ่งที่มีรูปปั้นยักษ์หรือพ่อท้าวเวสสุวรรณ ยืนถือกระบองอยู่หน้าถ้ำ ข้างๆ รูปปั้นยักษ์ตามหินที่เชิงหน้าผา ถ้าสังเกตดูดีๆ จะเห็นรูปแกะสลักหินเป็นรูปสัตว์และรูปคนอยู่ทั้งสองข้าง แต่ถ้าเราเงยแหงนหน้าขึ้นไปมองข้างบนเชิงหน้าผา เราก็จะเห็นพระพุทธรูป ปูนปั้นเรียงรายอยู่เต็มตายาว ของหน้าผานั้น แต่ถ้าหากว่าเราเดินดูพระพุทธรูปที่ตามหน้าผา เข้าไปข้างในนิดหนึ่งมองที่เพดานถ้ำ เราสังเกตดูจะเห็นรอยเขียนสีเป็นรูปลายกงจักรและดอกบัว แต่ถ้าเราเดินตรงไปภายในถ้ำ หลังรูปปั้นยักษ์หรือพ่อท้าวเวสสุวรรณ ขึ้นบันไดไปเราก็จะพบพระพุทธรูปปูนปั้นเก่าแก่อายุมากกว่าพันปีอยู่ภายในถ้ำ เป็นพระพุทธรูปปางไสยยาตร์ ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดภายในวัด และยังมีรูปปั้นทวดโต๊ะหยัง ซึ่งชาวบ้านในแถบนั้นให้การเคารพว่าศักดิ์สิทธิ์มาก แต่ถ้าหากเราเดินตรงไปออกประตูด้านในพระนอนเก่าแก่ ก็จะเป็นถ้ำห้องโถงใหญ่ให้เราได้เดินเที่ยวชมภายใน แต่ถ้าหากเราเดินไปเรื่อยๆก็จะทะลุออกตรงหน้าถ้ำพระพุทธรูปปางไสยยาตร์ องค์ใหญ่พอดี นอกจากนี้บนเชิงเขาข้างบน ยังมีพระอุโบสถเก่าแก่ที่อยู่บนเขา มีอายุราวๆ 500 กว่าปี และยังสามารถมองวิวชมทิวทัศน์จากข้างบนพระอุโบสถ จะเห็นหมู่บ้านถ้ำตลอดได้อย่างสวยงามแปลกตาอีกอย่างหนึ่ง
บริเวณวัดถ้ำตลอดจะมีถ้ำอยู่หลายแห่งที่มีความแปลกตาและสวยงาม เข้ากับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น ถ้ำกองทราย ถ้ำบ้านแกะยาง ถ้ำหลายแห่งมากมายที่น่าจะศึกษาค้นคว้า และก็ยังมี ถ้ำอีกหลายลูก ภายในบริเวณนั้นที่ชาวบ้านได้พบของเก่า พระเก่า ของใช้เก่าๆ ของคนโบราณ ซึ่งในตอนนี้ทางกรมศิลปกรได้เข้ามาทำการสำรวจและขุดค้น ศึกษาความเป็นมาของชุมชนโบราณอยู่ในขณะนี้ ภายในเขตวัดถ้ำตลอดและใกล้เคียง เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาอนุรักษ์และรักษาเอาไว้ ซึ่งโบราณสถานและวัตถุโบราณต่างๆ ที่มีค่าทางประวัติศาสตร์และทางพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง สมควรที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ยากจะหาค่าได้ สมควรที่พวกเราลูกหลานชนรุ่นหลัง ควรจะอนุรักษ์เอาไว้ตราบนานเท่านาน
รูปปั้นทวดโต๊ะหยัง
จากการบอกเล่าว่า ถ้ำอีกแห่งที่มีรูปปั้นยักษ์หรือพ่อท้าวเวสสุวรรณ ยืนถือกระบองอยู่หน้าถ้ำ ข้างๆ รูปปั้นยักษ์ตามหินที่เชิงหน้าผา ถ้าสังเกตดูดีๆ จะเห็นรูปแกะสลักหินเป็นรูปสัตว์และรูปคนอยู่ทั้งสองข้าง แต่ถ้าเราเงยแหงนหน้าขึ้นไปมองข้างบนเชิงหน้าผา เราก็จะเห็นพระพุทธรูป ปูนปั้นเรียงรายอยู่เต็มตายาว ของหน้าผานั้น แต่ถ้าหากว่าเราเดินดูพระพุทธรูปที่ตามหน้าผา เข้าไปข้างในนิดหนึ่งมองที่เพดานถ้ำ เราสังเกตดูจะเห็นรอยเขียนสีเป็นรูปลายกงจักรและดอกบัว แต่ถ้าเราเดินตรงไปภายในถ้ำ หลังรูปปั้นยักษ์หรือพ่อท้าวเวสสุวรรณ ขึ้นบันไดไปเราก็จะพบพระพุทธรูปปูนปั้นเก่าแก่อายุมากกว่าพันปีอยู่ภายในถ้ำ เป็นพระพุทธรูปปางไสยยาตร์ ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดภายในวัด และยังมีรูปปั้นทวดโต๊ะหยัง ซึ่งชาวบ้านในแถบนั้นให้การเคารพว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ไม่มีคนเล่ามาก่อนว่าทำไมจึงได้มาอยู่ร่วมกัน แต่เล่ามาว่าท่านแก่นจันทร์ตั้งวัดแข่งกับทวดหยัง(คนมาลายู) ทวดหยังตั้งวัดในถ้ำ แต่ท่านแก่นจันทร์ตั้งข้างนอก
ถ้ำตลอด(ถ้ำหลอด)
ถ้ำตลอด(ถ้ำหลอด) เป็นเส้นทางภายในถ้ำที่ใช้เดินตรงไปออกประตูด้านในพระนอนเก่าแก่ ซึ่งจะเป็นถ้ำห้องโถงใหญ่ให้เราได้เดินเที่ยวชมภายใน แต่ถ้าหากเราเดินไปเรื่อยๆก็จะทะลุออกตรงหน้าถ้ำพระพุทธรูปปางไสยยาตร์ องค์ใหญ่พอดี
พระอุโบสถบนชะง่อนหิน
เป็นพระอุโบสถเก่าแก่ที่อยู่บนเขา มีอายุราวๆ 500 กว่าปี และยังสามารถมองวิวชมทิวทัศน์จากข้างบนพระอุโบสถ จะเห็นหมู่บ้านถ้ำตลอดได้อย่างสวยงามแปลกตาอีกอย่างหนึ่ง แต่ไม่มีที่มาว่าทำไมจึงสร้างที่บนหินมีเพียงการบอกเล่ามาว่าท่านแก่นจันทร์ตั้งวัดแข่งกับทวดหยัง(คนมาลายู) ทวดหยังตั้งวัดในถ้ำ แต่ท่านแก่นจันทร์ตั้งข้างนอก โดยย้ายจากที่เดิม สาเหตุว่าเกิดมาจากฟ้าผ่าทำให้ยอดเจดีย์ด้วน