6 เทคนิคเรียนเลขให้รอด ที่ใครๆ ก็ทำได้
ในขณะที่แต่ละปีมีข่าวเด็กเทพชนะคณิตศาสตร์โอลิมปิกระดับโลก หรือสอบ O-NET เต็มร้อยกันเป็นสิบๆ คน แต่หันกลับมาที่มุมกว้างของประเทศไทย จะเจอน้องๆ ตาดำๆ ทั่วประเทศกำลังเบื่อหน่ายวิชาคณิตศาสตร์ วิชาที่ได้ขึ้นชื่อว่าปวดตับโดยแท้ ทั้งข้อสอบยาก การบ้านเยอะ เรียนก็ไม่รู้เรื่อง แต่ถึงยังไงก็หนีไปไม่ได้ค่ะ วิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาหลักที่ต้องเรียนกันตั้งแต่ประถมยันมัธยม และอาจจะตามไปหลอกหลอนในบางคณะด้วย
ฉะนั้นแทนที่เราจะมัวแต่หนี ลองเปลี่ยนมาตั้งหลักรับมือวิชานี้ เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างมีความสุขดีกว่านะคะ 5555 เคล็ดลับการเรียนคณิตศาสตร์ที่นำมาฝากวันนี้จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ (สำคัญที่สุด อย่าลืมนำไปใช้ด้วยนะ เพิ่งเปิดเทอมแบบนี้กำลังเหมาะเลย)
>> ฟังคือฟัง จดคือจด
ข้อเสียอย่างนึงของเด็กไทยคือ ระหว่างที่คุณครูพูด มือก็จดยิกๆๆ เพราะกลัวจดไม่ทัน แต่ความจริงสิ่งที่ทำอยู่ผิดหนักกว่าเก่าอีก เพราะทำให้เราจดไปทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ที่ต่างจากวิชาอื่นๆ อาจารย์จะแสดงวิธีการคิด การได้มาของแต่ละคำตอบให้ดูบนกระดาน การเรียนแบบฟังไป เขียนไปไม่มองกระดาน ไม่เข้าใจแน่นอนค่ะ เพราะขาด"การเห็นด้วยตา" นั่นเอง ฉะนั้นเวลาที่อาจารย์อธิบาย วางปากกาดินสอ ทุกสิ่งอย่างไว้ก่อน แล้วจดจ้องที่กระดาน ดูให้ออกว่าผลลัพธ์ของแต่ละบรรทัดมาได้ยังไง เอาอะไรมาบวกลบคูณหารกัน ถ้าดูแล้วเข้าใจ น้องๆ ก็จะเขียนลงสมุดได้ด้วยความเข้าใจเองค่ะ
ยิ่งสำหรับคนที่เพิ่งเข้า ม.1 ม.4 ยิ่งต้องตั้งใจเรียนเลยนะ เพราะเป็นระดับพื้นฐาน เมื่อเราเรียนสูงขึ้นไปต้องต่อยอดความรู้พวกนี้ให้ได้ ถ้าพื้นฐานดี อนาคตข้างหน้าจะเรียนง่ายขึ้น เหมือนกับบ้านค่ะ อยากได้บ้านที่แข็งแรง พื้นฐานของบ้านต้องแข็งแรงด้วย
>> รวบรวมสติและสมาธิ
น้องๆ น่าจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า "สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดจะมีเกิดปัญหา" ประโยคนี้ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ไม่เว้นแม้แต่การเรียนคณิตศาสตร์ค่ะ คนที่มีสติและสมาธิส่วนใหญ่จะประสบความสำเร็จ เพราะเขาจะรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ และจะทำสิ่งนั้นให้ดีขึ้นได้ยังไง
พี่มิ้นท์ว่า "คณิตศาสตร์" เป็นวิชาที่ต้องใช้สมาธิขั้นสูงเลยนะคะ ลำพังแค่เรานับ 1-100 ถ้านับตอนไม่มีสมาธิคงได้นั่งนับกันหลายรอบเลยค่ะ เพราะว่าคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ว่าด้วยตัวเลข ผิดเพียงหลักเดียวหรือพลาดไปขั้นตอนเดียว ส่งผลให้ผลลัพธ์ออกมาผิดได้เลย ดังนั้นตอนเรียนน้องๆ ควรจะมีสมาธิตั้งใจฟังครู อย่าวอกแวกหันไปเล่นกับเพื่อน เวลาทำการบ้านก็ต้องมีสมาธิจดจ่ออยู่กับข้อที่ทำ หากทำไม่ได้ ลองเพิ่มความพยายามตั้งใจหาคำตอบ อย่าทำครึ่งๆ กลางๆ แล้วเลิกเพราะจะติดเป็นนิสัยค่ะ สุดท้ายน้องเองจะเป็นคนที่ไม่มีความพยายามเลย
>> เข้าใจสูตร ทฤษฎีต่างๆ ตั้งแต่พื้นฐาน
"ทฤษฎีบท/สูตรต่างๆ" ต่อให้เราเกลียดแค่ไหน มันก็ยังจำเป็นสำหรับการเรียนคณิตศาสตร์อยู่ดี สิ่งที่ต้องระวังสำหรับการเรียนคณิตศาสตร์คือ น้องๆ มักจะท่องสูตรกันก่อนสอบ ทำให้ระยะยาวนั้นจำไม่ได้ ใช้ไม่เป็น สอบเสร็จคืนความรู้หน้าห้องสอบทันที
การเรียนคณิตศาสตร์ที่แท้จริง ไม่ควรเน้นการท่องจำค่ะ แต่ควรจำด้วยความเข้าใจต่างหาก ความรู้ที่ได้มาจากการท่องจำแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ลืม แต่ถ้าเราเข้าใจในตัวทฤษฎีบท ต่อให้เจอโจทย์ถามร้อยแปดตลบก็สามารถแก้ไขได้ และยังจำได้ในระยะยาวอีกด้วย โดยเฉพาะการรีบทำความเข้าใจสูตร วิธีการต่างๆ ตั้งแต่พื้นฐาน เพราะถ้าเราไม่เข้าใจตั้งแต่แรกๆ เมื่อยิ่งเรียนสูงขึ้นก็ยิ่งสะสมความไม่เข้าใจ สุดท้ายจะแย่เอานะคะ
>> อย่าปล่อยให้ตัวเองงงจนถึงบ้าน
หลายครั้งที่เราเรียนวิชาเลขในห้องแล้วไม่เข้าใจ แต่ติดที่ไม่กล้ายกมือถามอาจารย์ เพราะกลัวอาจารย์ว่า กลัวเพื่อนด่าว่าโง่ จึงปล่อยเลยตามเลย หลังหมดคาบก็ไม่ได้ถามอาจารย์อีก สุดท้ายสิ่งที่ไม่เข้าใจวันนี้ก็ตามหลอกหลอนไปถึงบ้านค่ะ แล้วมาเดือดร้อนช่วงใกล้สอบอีกที เชื่อว่าน้องๆ เป็นแบบนี้กันเยอะ ซึ่งพี่มิ้นท์กล้าบอกเลยว่าใครที่กำลังเป็นแบบนี้อยู่ อนาคตข้างหน้าอาการจะหนักกว่าเดิมนะ
ทางแก้ก็ไม่ยากค่ะ ยึดคติไว้ว่า "อย่าปล่อยให้ตัวเองงงจนถึงบ้าน" เท่านี้พอ คือ ทันทีที่งงสูตรไหน ไม่เข้าใจสมการไหน วิธีคิดนี้มาได้ยังไง ให้ใช้ "ปาก" ถามได้เลย หากไม่กล้าถามอาจารย์ก็เริ่มต้นถามจากเพื่อนๆ รอบข้างก่อน ให้ช่วยอธิบายสิ่งที่สงสัยหน่อย แต่ถ้าเพื่อนช่วยไม่ได้ กาดอกจันแล้วรอถามอาจารย์นอกห้องเรียนก็เป็นทางออกที่ดี เพราะเมื่อไหร่ที่เราเข้าใจแล้ว น้องจะเฮฮาลันล้าแค่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมาเครียดปลายเทอมอีกแล้ว
>> ลองเปลี่ยนตัวเองมาเป็นคนสอนบ้าง
หลังจากพยายามเรียนรู้ในแต่ละบทเรียนไปแล้ว เป็นธรรมดาค่ะที่จะต้องมีบางเรื่องที่เราเข้าใจและอีกหลายเรื่องที่เราไม่เข้าใจ เรื่องที่เราไม่เข้าใจแก้ไขไม่ยากคือ ให้เพื่อนช่วยสอนหรืออ่านหนังสือเพิ่มเติม แต่เรื่องที่เราเข้าใจดีก็พอจะมีวิธีที่จะทำให้จำแม่นๆ อยู่บ้าง นั่นก็คือ หาโอกาสลองอธิบายให้เพื่อนฟังบ้าง อาจจะเป็นเช้าวันถัดไป หรือช่วง 1 เดือนสุดท้ายก่อนสอบก็ได้ เพราะการสอนเพียง 1 ครั้งได้ผลดีกว่าการอ่านหนังสือถึง 10 ครั้ง!!
พี่มิ้นท์เคยถามน้องๆ ที่เรียนเก่งมาหลายคน ส่วนใหญ่พูดตรงกันนะคะว่าการได้เป็นคนสอนบ้าง จะยิ่งเพิ่มความจำให้กับเรา เพราะการพูดก็เป็นการทวนความรู้ของเราไปในตัว ช่วยให้จำเรื่องนั้นๆ ได้แม่นขึ้นค่ะ
>> หมั่นทำแบบฝึกหัดด้วยตัวเอง
เรียกเคล็ดลับก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะการทำแบบฝึกหัด ฝึกตีโจทย์ต่างๆ เป็นสิ่งที่น้องๆ ควรทำอยู่แล้วทุกวัน แต่เนื่องจากเด็กไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการบ้านเท่าไหร่ แต่ไปให้ความสำคัญกับคะแนน ทำให้น้องๆ หาวิธีได้คะแนนแบบไม่ต้องเหนื่อย คือ เลือกที่จะลอกเพื่อนแล้วส่งในตอนเช้า ไม่ค่อยทำการบ้านด้วยตัวเองสักเท่าไหร่
ใครที่ตั้งเป้าหมายไว้แล้วว่าจะเก่งคณิตศาสตร์ต้องฝึกทำการบ้านด้วยตัวเองตั้งแต่วันนี้ ทำด้วยตัวเองทุกข้อยิ่งดีใหญ่ ถูกบ้าง ผิดบ้างไม่ต้องไปแคร์ค่ะ เมื่อไหร่ที่เราผิดแล้วดูเฉลยเราจะรู้เองว่าผิดตรงไหน ซึ่งจากขั้นตอนที่แก้โจทย์เอง ทำเอง ดูเฉลยแล้วทบทวนจุดที่ผิด ยิ่งช่วยให้น้องๆ แม่นคณิตศาสตร์ในเรื่องนั้นๆ มากยิ่งขึ้น
เคล็ดลับอีกอย่างนึงคือ ลองทำโจทย์ที่คล้ายๆ กันหลายๆ ครั้ง เพื่อย้ำความเข้าใจของทฤษฎีที่เรากำลังใช้อยู่ค่ะ บางคนได้ทำข้อสอบเก่าบ่อยๆ ก็จะชินกับรูปแบบคำถาม พอเห็นโจทย์ก็มองออกทันทีว่าต้องใช้สูตรไหนมาคิด เลือกวิธีทำมาได้เองอัตโนมัติเลย สุดยอดมากๆ
หวังว่าเคล็ดลับที่ว่ามาคงจะไม่ยากเกินไปที่น้องๆ จะเริ่มต้นทำตั้งแต่วันนี้ ถึงแม้ว่าวิชาเลขจะยากในความคิดหลายๆ คน แต่แปลกมั้ยคะที่ "คณิตศาสตร์" กลับเป็นวิชาเดียวที่มีเด็กไทยทำข้อสอบระดับประเทศเต็ม 100 คะแนนตลอด เพราะวิชาเลขเป็นวิชาที่มีคำตอบตายตัว สูตรต่างๆ ก็คงที่เหมือนเดิม ขอแค่คิดให้ถูกก็ได้คำตอบที่ถูกต้อง ไม่เหมือนกับวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษที่ดูเหมือนจะง่ายกว่าแต่กลับไม่เคยมีใครสอบได้ 100 เต็มเลย ดังนั้นอยากเก่งเลข สอบได้คะแนนเลขเยอะๆ ลองนำเคล็ดลับนี้ไปใช้กันนะคะ และฝากไว้อีกหนึ่งข้อคิดค่ะ "อยากเก่งเลข ต้องเลิกเกลียดเลขให้ได้ก่อนนะคะ"
เข้าชม : 3303
|