การปลูกดอกดาวเรือง
ดาวเรือง เป็นไม้ดอกที่ปลูกง่าย โตเร็ว แต่ค่อนข้างตอบสนองต่อสภาพแวดล้อม เช่น การให้น้ำ ช่วงแสง อุณหภูมิ ความชื้นโครงสร้างดิน และธาตุอาหาร ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้มีอิทธิพลต่อลักษณะคุณภาพ แต่อย่างไรก็ตามไม้ดอกอย่างดาวเรืองก็ยังถือเป็นไม้ดอกเศรษฐกิจที่สำคัญที่ตลาดไม้ดอกเมืองไทยจะขาดไม่ได้โดยเฉพาะกับการนำไปจัดแต่งสถานที่ ร้อยพวงมาลัย รวมถึงบางธุรกิจที่มีการนำดอกดาวเรืองไปแปรรูปเป็นสินค้าชนิดอื่นได้ด้วย ซึ่งราคาดอกดาวเรืองที่ www.ThaiSMEsCenter.com เช็คจากตลาดต่างๆ ทั้งสี่มุมเมืองและปากคลองตลาดนั้นส่วนใหญ่ถ้าเป็นดาวเรืองตัดดอกราคาอยู่ที่ร้อยละ 50-90 บาท ซึ่งก็ถือว่าสูงและเป็นราคาที่ไม่ค่อยตกไปจากนี้ก็ถือเป็นผลดีที่คนสนใจจะปลูกเป็นรายได้ให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี การปลูกดาวเรือง ดาวเรือง นั้นเราจำเป็นจะต้องรู้ว่าดาวเรืองชอบดินอย่างไรดินที่ดาวเรืองชอบมากที่สุดก็คือดินที่สามารถระบายน้ำได้ดีดินที่ระบายอากาศได้ดี ซึ่งดินที่มีคุณสมบัติเหล่านี้คือดินร่วนปนทรายดินประเภทนี้เป็นดินที่เกมาะสำหรับการปลูกดาวเรือง ไม่ใช่ว่าดินประเภทอื่นจะปลูกดาวเรืองไม่ได้ดินประเภทอื่นก็สามารถปลูกดาวเรืองได้เช่นกันแต่ต้องมีการเสริมธาตุอาหารและเสริมช่องอากาศภายในดินด้วยการใส่วัสดุธรรมชาติอย่างปุ๋ยชีวภาพหรือแกลบเป็นต้น โดยดาวเรืองมีหลายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่เหมาะสมสำหรับปลูกเพื่อตัดดอกไปจำหน่าย ได้แก่ พันธุ์ซอฟเวอร์เรน ทอรีดอร์ และดับเบิ้ล-อีเกิ้ล ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 8.5-10 เซนติเมตร
วิธีการปลูกดาวเรือง
1.ไถเตรียมดิน หว่านปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปประมาณ 1 ตัน/ไร่ ยกร่องแปลงปลูกกว้าง 1 เมตรรดน้ำแปลงไว้ล่วงหน้า 1 วัน
2.ขุดหลุมกว้าง 15 เซนติเมตร แปลงละ 3 แถว ระยะระหว่างแถว 30 เซนติเมตร ระยะระหว่างต้น 30 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยทริบเบิ้ลซุปเปอร์ฟอสเฟส หรือสูตร 15-15-15 ประมาณ 1 ช้อนชา รองก้นหลุม แล้วเกลี่ยดินข้างหลุมมากลบปุ๋ยเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้รากดาวเรืองสัมผัสปุ๋ยโดยตรง
3.นำต้นกล้าที่มีอายุ 7-10 วัน ( นับจากวันเพาะเมล็ด ) โดยแยกต้นกล้าให้มีวัสดุเพาะ หรือดินหุ้มติดรากมาด้วย เพื่อป้องกันรากกระทบกระเทือน นำมาปลูกในแต่ละหลุมที่เตรียมไว้ รดน้ำให้ชุ่ม
4.หลังจากนั้น ต้องรดน้ำเช้า-เย็น ประมาณ 7 วัน ซึ่งต้นกล้า จะตั้งตัวได้ดี แล้วจึงรดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง ในตอนเช้า ในช่วงที่ดอกเริ่มบานไม่ควรรดน้ำให้โดนดอก เพื่อป้องกันดอกเป็นโรค
5.เมื่อดาวเรืองอายุ 15 และ 25 วัน ควรใส่ปุ๋ย 15-15-15 ในอัตรา 1 ช้อน : ต้น เมื่ออายุ 35 และ 45 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 ในอัตราเดียวกัน โดยวิธีฝังลงในดินตื้นๆ ประมาณ ½ นิ้ว ห่างโคนต้น 6 นิ้ว แล้วรดน้ำให้ชุ่มทุกครั้งที่ใส่ปุ๋ย
6.ช่วงดาวเรืองอายุ 21-25 วัน ซึ่งเป็นระยะที่ต้นมีใบจริงขนาดใหญ่ ประมาณ 4 คู่ และส่วนยอดมีใบเล็กๆ 1-2 คู่ จะต้องปลิดยอดทิ้งเพื่อให้แตกกิ่งข้าง โดยใช้มือซ้ายจับคู่ใบบนสุดที่จะเหลือไว้ แล้วใช้มือขวาดึงส่วนยอดลงทางด้านข้างจนหลุดออกมา หลังจากนั้น 5-7 วันตาข้างจะเริ่มแตกและเจริญเป็นกิ่งใหม่ ซึ่งจะติดตุ่มดอกทั้งที่ตายอดปลายกิ่งและตาข้าง
7.หลังจากปลูก 40-45 วันในแต่ละกิ่ง เมื่อดอกยอดมีขนาดเท่าเมล็ดข้าวโพดดอกข้างมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว ต้องรีบปลิดดอกข้างออกให้หมดภายใน 2-3 วัน คงเหลือดอกยอดไว้ดอกเดียว เพื่อให้ดอกมีขนาดใหญ่
8.หลังจากนั้นประมาณ 20 วัน ( อายุ 60-65 วัน ) ก็ตัดดอกไปจำหน่ายได้ ซึ่งจะได้ประมาณ 10-12 ดอก/ต้น
โรคและแมลงที่สำคัญ
โรคเหี่ยว เกิดจากเชื้อรา ควรฉีดพ่น ด้วยสารเคมีแมนโคเซ็บสลับกับคาร์เบนดาซิม และถอนต้นที่เป็นโรคเผาทำลาย เพลี้ยไฟ ควรฉีดพ่นสารเคมีกำจัดแมลง เช่น โตกุไรออน อัตรา 30 ซีซี:น้ำ 20 ลิตร สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ตอนเช้า 4-5 สัปดาห์ หนอนกระทู้หอม ควรฉีดพ่นด้วยเชื้อไวรัส NPV หรือสารกำจัดแมลงแคสเคด อัตรา 20-40 ซีซี : น้ำ 20 ลิตร
เข้าชม : 1243
|