[x] ปิดหน้าต่างนี้
 
 

1. นโยบายด้านการศึกษานอกระบบ

   1.1  จัดและสนับสนุนการศึกษานอกระบบตั้งแต่ประถมวัยจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน (หลักสูตร 2 ปี)

                 1)  พัฒนาหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถนำสาระการเรียนรู้และวิธีการเรียนรู้ไปใช้ประโยชน์ได้จริงในการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยรวม  และสร้างเสริมสมรรถนะการประกอบอาชีพที่สามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคง

                 2)  ดำเนินการให้ผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษขั้นพื้นฐานได้รับการสนับสนุนค่าจัดซื้อตำราเรียน  ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน  และค่าเล่าเรียนอย่างทั่วถึง  เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับการศึกษาที่มีคุณภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

                 3)  จัดหาตำราเรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพตามที่สำนักงาน  กศน. ให้การรับรองคุณภาพให้ทันต่อความต้องการของผู้เรียนพร้อมทั้งจัดให้มีระบบหมุนเวียนตำราเรียนเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนทุกคนสามารถเข้าถึงการใช้บริการตำราเรียนอย่างเท่าเทียมกัน

                 4)  ขยายการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพให้กับประชากรวัยแรงงานที่ไม่จบการศึกษาภาคบังคับและไม่อยู่ในระบบโรงเรียน  โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสกลุ่มต่างๆ  ด้วยวิธีเรียนที่หลากหลาย

                 5)  ส่งเสริม  สนับสนุน  และเร่งรัด  ให้ กศน. อำเภอทุกแห่งดำเนินการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์  รวมทั้งผลการเรียอย่างเป็นระบบได้มาตรฐาน  สอดคล้องกับหลักสูตร  เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับประชาชนอย่างกว้างขวาง

                 6)  พัฒนาระบบฐานข้อมูลรวมของนักศึกษา  กศน.  ให้มีความครบถ้วน  ถูกต้อง  ทันสมัย  และเชื่อมโยงกันทั่วประเทศ  สามารถสืบค้นและสอบทานได้ทันความต้องการเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษาให้กับผู้เรียนและการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ

                7)  จัดให้มีวิธีการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการฝึกปฏิบัติจริงเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้  รวมทั้งสามารถพัฒนาทักษะเกี่ยวกับสาระและวิธีการเรียนรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                8)  พัฒนาระบบการประเมิณเพื่อเทียบระดับการศึกษาที่มีความโปร่งใส  ยุติธรรม  ตรวจสอบได้  มีมาตรฐานตามที่กำหนด  และสามรถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    1.2  การส่งเสริมการเรียนรู้

                 1)  พัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ไม่รู้หนังสือทั้งในระดับพื้นที่และส่วนกลางให้มีความครบถ้วน  ถูกต้อง ทันสมัย  และเป็นระบบเดียวกัน

                 2)  พัฒนาหลักสูตร  สื่อ  แบบเรียน  เครื่องมือวัดผลและเครื่องมือการดำเนินงานการส่งเสริมการรู้หนังสือที่สอดคล้องกับสภาพของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย

                 3)  พัฒนาครู  กศน. และภาคีเครือข่ายที่ร่วมจัด  ให้มีความรู้  ความสามารถและทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับผู้ไม้รู้หนังสืออย่างมีประสิทธิภาพ

                 4)  ส่งเสริม  สนับสนุนให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมส่งเสริมการรู้หนังสือ  การคงสภาพการรู้หนังสือ  การพัฒนาทักษะการรู้หนังสือ  และการพัฒนาทักษะด้านคอมพิวเตอร์พื้นฐานเพื่อเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้อยางต่อเนื่องตลอดชีวิตของประชาชน

                 5)  พัฒนาระบบการประเมินผลระดับการรู้หนังสือให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและระดับสากล

  หลักฐานการขอจบหลักสูตร

การยื่นเรื่องขอจบหลักสูตร สามารถทำได้ 2 ภาคเรียน คือ

         ภาคเรียนที่ 1 ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์

         ภาคเรียนที่ 2 ประมาณต้นเดือนกันยายน

         เมื่อนักศึกษาได้รับการอนุมัติผ่านระดับการศึกษาและจบหลักสูตรแต่ละระดับแล้ว นักศึกษาจะต้องยื่นคำร้องขอจบการศึกษาพร้อมหลักฐาน ดังนี้

1. ใบคำร้องขอจบหลักสูตร

2. รูปถ่าย 4x5 เซนติเมตร จำนวน 2 รูป สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตาดำถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน ไม่เป็นรูปประเภทโพลาลอยด์

3. สำเนาทะเบียนบ้าน

4. สำเนาหนังสือสำคัญ แสดงวุฒิเดิมก่อนเข้าเรียน

5. สำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบเปลี่ยนชื่อ – เปลี่ยนสกุล ใบทะเบียนสมรส (ถ้ามี) 




 



        
 เน้นหนักการเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นหลัก มีการพบกลุ่มเพื่อนำสิ่งที่ได้ไปศึกษาค้นคว้า แล้วมานำเสนอ อภิปราย และสรุปร่วมกันในลักษณะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน

รายละเอียดวิธีเรียนแบบพบกลุ่ม

การวางแผนการจัดการเรียนรู้

1. ครูและนักศึกษาร่วมกันวิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานและสาระการเรียนรู้แล้วจัดแบ่งเนื้อหาสาระ เป็น 3 ส่วน ดังนี้

        1.1 เนื้อหาที่ง่ายนักศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.) ตลอดสัปดาห์ต้องมีเวลาสำหรับการเรียนรู้ไม่น้อยกว่า15 ชั่วโมง (เฉลี่ยวันละ 3 ชั่วโมง) มีการจดบันทึก เรียบเรียงความรู้นั้น ไว้เป็นหลักฐานและนำเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเวลาพบกลุ่ม ผู้เรียนก็ช่วยกันเรียนและเติมเต็มความรู้แก่กัน

        1.2 เนื้อหาที่ยากปานกลาง ครูและนักศึกษาต้องร่วมกันจัดแผนการเรียนรู้ โดยครูเป็นผู้สอนในแต่ละสัปดาห์

        1.3 เนื้อหาที่ยากมาก ครูและนักศึกษาร่วมกันจัดแผนการเรียนรู้ โดยเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาสอนแทน

2. นักศึกษาและครู ร่วมกันวางแผนการเรียนรู้ตลอดภาคเรียนและนักศึกษาจะต้องจัดทำแผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของตนเองทุกสัปดาห์ตลอดภาคเรียน

3. นักศึกษาและครูร่วมกันวางแผนการวัดและประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทุกกิจกรรมตลอดภาคเรียน


การจัดกระบวนการเรียนรู้

          1. กิจกรรมพบกลุ่ม (พก.) นักศึกษาต้องมีเวลาพบกลุ่มอย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อ สัปดาห์

          2. การเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.) นักศึกษาต้องมีเวลาในการเรียนรู้ด้วยตนเอง  อย่างน้อย 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือวันละ 3 ชั่วโมง

          3. การทำโครงงาน นักศึกษาต้องเรียนรู้โดยการทำโครงงาน อย่างน้อย 3 หน่วยกิต ตลอดหลักสูตร ผู้เรียนจะต้องรวมกลุ่มกันประมาณ 5-7คน โดยร่วมกันคิดวิเคราะห์ว่าจะทำโครงงานใดในรายวิชานั้น วางแผนและลงมือปฏิบัติ นำเสนอความก้าวหน้าของการทำโครงงานในการพบกลุ่มเป็นระยะ ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเกิดความคิดต่อยอดเพื่อนำไปพัฒนาโครงงานอย่างต่อเนื่องทุกกลุ่มจนสิ้นสุดภาคเรียน

          4. การจัดการเรียนรู้โดยการทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต (กพช.) เป็นกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการพบกลุ่ม และเป็นเงื่อนไขของการจบหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนทุกระดับ เป็นกิจกรรมกลุ่มผู้เรียนทำตามความสนใจความถนัด โดยเน้นการนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการศึกษา / เรียนรู้ ไปสู่การปฏิบัติที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตจริงเพื่อพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม มีการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ระเบียบวินัยความรับผิดชอบ การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข ซึ่งผู้เรียนจะทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตในภาคเรียนใด ภาคเรียนหนึ่งก็ได้ และสามารถทำร่วมกับผู้เรียนในระดับการศึกษาอื่น โดยทำให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด

 

การลงทะเบียน

         1. ระดับประถม นักศึกษาสามารถลงทะเบียนได้ภาคเรียนละ 14 หน่วยกิต โดยลงทะเบียนในกลุ่มรายวิชาบังคับและรายวิชาเลือกตามที่สถานศึกษากำหนด โดยยกเว้นรายวิชาที่นำมาเทียบโอนผลการเรียน

         2. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น  นักศึกษาสามารถลงทะเบียนได้ภาคเรียนละ 17 หน่วยกิต โดยลงทะเบียนในกลุ่มรายวิชาบังคับและรายวิชาเลือกตามที่สถานศึกษากำหนด โดยยกเว้นรายวิชาที่นำมาเทียบโอนผลการเรียน

         3. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย นักศึกษาสามารถลงทะเบียนได้ภาคเรียนละ 23 หน่วยกิต โดยลงทะเบียนในกลุ่มรายวิชาบังคับและรายวิชาเลือกตามที่สถานศึกษากำหนด โดยยกเว้นรายวิชาที่นำมาเทียบโอนผลการเรียน

          * ยกเว้นวิชาภาคเรียนสุดท้ายสามารถลงเพิ่มได้จำนวน 3 หน่วยกิต ทุกระดับ ส่วนในรายวิชาที่ได้ผลการเรียนเป็น " 0 " หรือรายวิชาที่เรียนเพิ่มเติม ทั้งนี้ไม่นับรายวิชาที่เทียบโอนผลการเรียนและที่ลงทะเบียนปกติ

          4. การลงทะเบียนกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต นักศึกษา ต้องลงไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่นักศึกษาจะต้องได้รับการประเมินตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด จึงจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด จึงจะได้รับการพิจารณาให้จบหลักสูตรในแต่ละระดับการเรียนได้

          5. การลงทะเบียนรักษาสภาพ กรณีนักศึกษาไม่สามารถลงทะเบียนเรียน ในภาคเรียนใดภาคเรียนหนึ่งได้จะต้องลงทะเบียนรักษาสภาพการเป็นนักศึกษา หากไม่สามารถลงทะเบียนรักษาได้ ต้องลงทะเบียนย้อนหลังทุกภาคเรียนที่ไม่ได้ลงทะเบียนทั้งนี้ต้องไม่เกิน 6 ภาคเรียนติดต่อกัน และต้องเป็นไปตามวัน เวลา วิธีการที่สถานศึกษากำหนด

 

ระยะเวลารับสมัคร

        กศน.อำเภอนาทวี จะประกาศเปิดรับสมัครและลงทะเบียนเรียนปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเวลา

                ภาคเรียนที่ 1 รับสมัครเดือน เมษายน  เปิดภาคเรียน 16 พฤษภาคมของทุกปี

                ภาคเรียนที่ 2 รับสมัครเดือน ตุลาคม  เปิดภาคเรียน 16 พฤศจิกายนของทุกปี

         วันปิดภาคเรียนเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม ของทุกปี

          จัดกระบวนการเรียนการสอนหรือนักศึกษาต้องมาพบกลุ่ม 18 ครั้ง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง นักศึกษาต้องมีเวลาพบกลุ่มไม่น้อยกว่า 80 % ขาดเรียนได้ไม่เกิน 4 ครั้ง จะทำให้หมดสิทธิ์สอบ

          เวลาเรียนแบ่งการเรียนออกเป็น 2 ภาคเรียน ภาคเรียนละ 20 สัปดาห์ โดยกำหนดให้ทุกระดับ ต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า 4 ภาคเรียน หรือ2 ปี ยกเว้น ผู้ที่มีเทียบโอนผลการเรียนสามารถจบก่อน 4 ภาคเรียน

 

หลักฐานการรับสมัคร

         1. ใบสมัคร

         2. รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป หน้าตรงไม่สวมแว่นตาดำ ไม่สวมหมวก และสวมเสื้อสีขาวมีปก

         3. สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมตัวจริง

         4. สำเนาหนังสือแสดงวุฒิ พร้อมฉบับจริง

         5. สำเนาบัตรประชาชน พร้อมฉบับจริง

 

สถานที่รับสมัคร

         - ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอนาทวี

 

         - กศน.ตำบล ทุกตำบล

 


       
       
   เป็นการประเมินจากความรู้ ทักษะ ผลงาน ประสบการณ์จากแฟ้มสะสมผลงาน 3 ด้าน (ด้านการพัฒนาอาชีพ  ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต  ด้านการพัฒนาสังคมและชุมชน)  การสอบ ปฏิบัติ สัมภาษณ์ และทำกิจกรรมเข้าค่ายหรือกิจกรรม กพช. (กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต)

 

การเทียบโอนการศึกษา

          ตามเจตนารมณ์ ของ พระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้กำหนดรูปแบบ การศึกษาไว้ 3 รูปแบบ คือ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งประชาชนจะเลือกรูปแบบใดก็ได้ และสามารถนำผลการเรียน มาเทียบโอน

          การเทียบโอนผลการเรียน หมายถึง การนำผลการเรียนซึ่งเป็นความรู้ ทักษะ และ ประสบการณ์ของผู้เรียนที่เกิดจากการศึกษา ทั้ง 3 รูปแบบ มาประเมินเป็นส่วนหนึ่ง

 

ขอบข่ายการเทียบโอนผลการเรียน

1. การเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษาในระบบ และ การศึกษานอกระบบ

2. การเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษานอกระบบที่จัดเป็นหลักสูตรเฉพาะ

3. การเทียบโอนผลการเรียนจากหลักสูตรต่างประเทศ

4 . การเทียบโอนประสบการณ์ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น ทหารกองประจำการ อาสาสมัครสาธารณสุข ผู้นำท้องถิ่น เป็นต้น

5. การเทียบโอนผลการเรียนจากการเรียนรู้ ในกิจกรรมพัฒนาอาชีพ

 

วิธีการเทียบโอนผลการเรียน

1. การเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษาในระบบ และ การศึกษานอกระบบ

2. การเทียบความรู้และประสบการณ์

 

การเตรียมตัวของผู้ต้องการเทียบโอนผลการเรียน

1. จัดเตรียมเอกสารทางการศึกษา เป็นใบ ป.05 รบ. 1 ต และใบประกาศจากกระทรวงศึกษาธิการ

2. จัดเตรียมเอกสารการเทียบโอน ใบ สด.8 , บัตรประจำตัวอาสาสมัครสาธารณสุข

3. หลักฐานอื่นๆ แฟ้มสะสมงาน

 



        ปัจจุบันมีประชากรจำนวนมากมายของประเทศที่ยังขาดโอกาสทางการศึกษาปัจจัยและเหตุผลหลายประการ อาทิ ปัญหาด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคมและความไม่พร้อมของครอบครับ ประชากรอายุ 13-18 ปี ขาดโอกาสการเรียนรู้ถึงร้อยละ 35 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญของประเทศที่ทำงานอยู่ในภาคเกษตร อุตสาหกรรม และสาขาการบริการ ประชากรเหล่านี้มีความรู้ มีประสบการณ์จากหน้าที่การงานที่สามารถเลี้ยงชีพได้ แต่ยังขาดความรู้พื้นฐานในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ม.6) ประชากรเหล่านี้จึงต้องได้รับการประกันโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน 

 

สถานที่รับสมัคร

          - ศูนย์ กศน. อำเภอนาทวี  อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา  โทร 074-373167

          - กศน.ตำบล ทุกตำบล

คุณสมบัติของผู้สมัคร

        1. มีสัญชาติไทย

        2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์ นับถึงวันที่สมัครรับการประเมิน 

        3. มีพื้นความรู้ไม่ต่ำกว่าการศึกษาระดับประถมศึกษา 

        4. ไม่เป็นนักเรียนหรือนักศึกษา ที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาที่จัดการศึกษาในระบบหรือการศึกษานอกระบบที่แบ่งระดับเช่นเดียวกับการศึกษาในระบบ

        5. มีประสบการณ์การประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่งไม่น้อยกว่า 3 ปี 

        6. ต้องประกอบอาชีพอยู่ในเขตบริการของสถานศึกษาที่จะสมัครเข้ารับการประเมิน 

 

ระยะเวลาการสำเร็จการศึกษา 

        เป็นไปตามศักยภาพของผู้เข้ารับการประเมิน อาจใช้เวลามากหรือน้อยกว่า 8 เดือนก็ได้  

 

วิธีการประเมิน

        1. ประเมินผลเป็นรายวิชา แบ่งออกเป็น 2 ภาค

                  1.1 ภาคทฤษฎี ร้อยละ 70 ต้องสอบได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ประเมินด้วยแบบทดสอบความรู้

                  1.2 ภาคประสบการณ์ ร้อยละ 30 ประเมินด้วยการปฏิบัติจริง และหรือสัมภาษณ์ และหรือชิ้นงาน และหรือแฟ้มประมวลประสบการณ์

        2. เกณฑ์การผ่าน

                  การประเมินแต่ละรายวิชา ต้องได้คะแนนภาคทฤษฎีและภาคประสบการณ์รวมกันไม่น้อยกว่า ร้อยละ 60

       >>>ประเมิน 9 รายวิชา

                 Module 1 เครื่องมือสร้างความรู้ความสำเร็จ

                       1. การใช้คอมพิวเตอร์

                       2. คณิตซาสตร์ในชีวิตประจำวัน

                       3. การบริหารธุรกิจ SMEs

                 Module 2 พัฒนาองค์กรชุมชนเข้มแข็ง

                       4. ระบบอบประชาธิปไตย

                       5. การบริหารจัดการชุมชน

                 Module 3 การสื่อสาร

                       6. การสนทนาภาษาอังกฤษ/จีน

                       7. ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร

                 Module 4 วิจัยชุมชน และทั่วไป

                       8. การวิจัยชุมชน

                       9. การจัดการอาหารเพื่อครอบครัว และชุมชน

รายละเอียดเพิ่มเติม>>>http://sk.nfe.go.th/msk/UserFiles/Pdf/m6m8.pdf              



การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ

        กศน.อำเภอเมืองสงขลาจัด ส่งเสริม และพัฒนาการจัดการศึกษาทักษะอาชีพ เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพของบุคคลและกลุ่มบุคคล เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข็มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชน

        ดังนั้นการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพจึงมุ่งจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำอย่างยั่งยืนโดยให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียนและศักยภาพของแต่ละพื้นที่  รวมทั้งส่งเสริมการใช้ระบบเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอาชีพ  เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ความสามารถ  เจตคติที่ดีต่อการประกอบอาชีพและทักษะที่พัฒนาขึ้นไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพที่สร้างรายได้ได้จริง  และการพัฒนาสู่เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ต่อไป 

 

การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ มี 4 ประเภท คือ

            1 การฝึกทักษะอาชีพ โดยจัดการศึกษาด้านอาชีพหลักสูตรระยะสั้น เพื่อสนองความต้องการของผู้เรียน ให้มีความรู้และทักษะพื้นฐานในการอาชีพ

            2 การเข้าสู่อาชีพ เป็นการพัฒนากลุ่มเป้าหมายให้สามารถคิด วิเคราะห์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และพัฒนาตนเองเพื่อเข้าสู่อาชีพ

 

            3 กลุ่มพัฒนาอาชีพ เป็นการส่งเสริมความรู้และประสบการณ์แก่กลุ่มที่มีอาชีพประเภทเดียวกันให้สามารถพัฒนาปริมาณและคุณภาพผลผลิตเข้าสู่การจำหน่ายมีรายได้ยิ่งขึ้น เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยกระบวนการกลุ่ม



การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต

       มุ่งจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้าหมายมีความสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเองให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข  มีคุณธรรมจริยธรรม  รวมทั้งสามารถใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง  ครอบครัว  และชุมชน      

กิจกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต 

       เน้นการกระตุ้นให้เกิดวิธีคิดให้มีความรู้สึกเห็นคุณค่าเกียรติศักดิ์ของตนเอง และให้มีทักษะพื้นฐานการเรียนรู้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ได้แก่ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยและสิ่งเสพติด คุณธรรมและจริยธรรมกฎหมายและประชาธิปไตย ในรูปแบบของ การเข้าค่าย การแข่งขัน การฝึกอบรม เป็นต้น


การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมชุมชน

         กศน.อำเภอนาทวี มุ่งจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชนตามแนวการจัดการศึกษา  เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรม  การประชุมสัมมนา  การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้  การสร้างชุมชนนักปฏิบัติ  การเรียนทางไกล  และรูปแบบอื่นๆ ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย  และบริบทของชุมชนแต่ละพื้นที่โดยเน้นการสร้างจิตสำนึกความเป็นประชาธิปไตย  ความเป็นพลเมืองดีการส่งเสริมบทบาทสตรี  การสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชน  การบริหารกองทุน  การสร้างความมั่งคงทางอาหาร  การอนุรักษ์พลังงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  การบริหารจัดการน้ำ และการรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  และหลักสูตรเชิงบูรณาการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

 

         พัฒนาระบบคลังหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องให้ได้มาตรฐาน  และสะดวกต่อการใช้งานเพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษาต่อเนื่องของสถานศึกษาและภาคีเครือข่าย

 

 

 



เข้าชม : 1421
 
 
ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอนาทวี   หมู่ 1 ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา 90160                                    
โทร 0-7437-3167 โทรสาร 0-7437-3167
Powered by MAXSITE 1.10 Modify by นิกร เกษโกมล Version 2.05