โครงการ ยกระดับการศึกษาประชาชน
จบ ม.6 ใน 8 เดือน อย่างมีคุณภาพ
สามารถคลิกที่รูปภาพด้านบนเพื่อดาวน์โหลดรายละเอียดต่างๆได้
หรือ www.pattanadownload.com
บทความที่เกี่ยวข้อง
เปิดตัว "โครงการยกระดับการศึกษาประชาชน จบ ม.๖ ใน ๘ เดือนอย่างมีคุณภาพ"
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดตัว "โครงการยกระดับการศึกษาประชาชน จบ ม.๖ ใน ๘ เดือนอย่างมีคุณภาพ" เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๕ ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) รวมทั้งผู้บริหาร บุคลากร กศน. ตลอดจนประชาชนที่สนใจเข้าร่วมงานกว่า ๓,๐๐๐ คน
รมว.ศธ. กล่าวว่า ในสังคมปัจจุบันซึ่งถือว่าเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ซึ่งการศึกษาเป็นเรื่องที่เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ การศึกษานั้นไม่ใช่แต่การเรียนรู้ในโรงเรียนเท่านั้น เพราะการศึกษาที่แท้จริงเป็นการศึกษาที่เรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนรู้ในทุกที่ ทุกขณะที่เราใช้ชีวิตอยู่ ผู้ที่ทำงานหลายท่านเป็นผู้ประกอบการ เป็นพนักงานในหน่วยงานต่างๆ เป็นพนักงานในภาคเอกชน ฯลฯ ทุกวันทุกเวลาที่ทำงานก็ได้มีการเรียนรู้ สั่งสมความรู้ประสบการณ์ในด้านต่างๆ มากมาย อาชีพแต่ละอาชีพที่ท่านทำก็ได้เพิ่มพูนความรู้ของท่านมากมาย
ตัวอย่างเช่นในภาคธุรกิจ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็นผู้นำองค์กรที่นำพาธุรกิจไทยก้าวไกลสู่สากล เปิดบริษัทต่างๆ เป็นร้อยบริษัทในต่างประเทศ บางท่านอาจจะไม่เคยผ่านการศึกษาในระบบหรือในระดับสูง แต่มีประสบการณ์มากมายกว่าคนที่เรียนในระบบจบปริญญาเอกมากมาย และไม่ใช่เฉพาะเจ้าของกิจการระดับใหญ่ๆ เท่านั้นที่จะมีความรู้ที่ได้จากการประกอบธุรกิจ เจ้าของกิจการในประเทศจำนวนมาก เช่น เจ้าของสวนทางการเกษตร เจ้าของกิจการร้านซ่อมรถ ฯลฯ ในระหว่างการทำงานก็ได้เรียนรู้หลายเรื่อง เช่น การคำนวณทางคณิตศาสตร์ ต้องเรียนรู้มากกว่าคนที่เรียนในระบบมากมายในหลายๆ วิชา เพราะเรียนรู้ด้วยวิธีปฏิบัติ ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าคนที่เรียนรู้โดยวิธีปฏิบัตินั้นมีความรู้จริงๆ มากกว่าแต่การเรียนรู้เฉพาะทฤษฎีด้วยซ้ำไป หรือคนที่ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ ก็ได้ใช้ภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษทุกวัน แน่นอนว่าคนเหล่านั้นได้สั่งสมความรู้ภาษาอังกฤษมากมาย หรือแม้แต่แม่บ้าน อยู่กับบ้าน แต่หลายท่านมีบัญชีครัวเรือน ทำกิจกรรมกับกลุ่มสตรี ซึ่งความรู้ต่างๆ เหล่านี้แต่เดิมสั่งสมไว้ แต่ไม่สามารถมาประเมินได้ว่าเมื่อเทียบกับความรู้ในระบบมีความรู้อะไรบ้าง ทำให้เป็นปัญหาต่อการไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงได้กำหนดไว้ในนโยบายของรัฐบาลว่าจะยกระดับการศึกษาของประชาชนให้จบ ม.๖ ใน ๘ เดือนได้อย่างมีคุณภาพ โดยได้กำหนดอายุขั้นต่ำ ๒๐ ปีขึ้นไปที่สามารถสมัครเข้าโครงการนี้ เหตุผลเพราะเป็นผู้ที่ทำงานมาระดับหนึ่งแล้ว หรือหลายท่านทำงานมาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นความรู้ที่สั่งสมมามากมาย ก็จะนำมาเทียบกับการศึกษาในระบบ มีข้อสอบ มีระบบการทดสอบที่ชัดเจน เป็นมาตรฐานว่าผู้นั้นมีความรู้ระดับใด โดยใช้เวลาจบ ม.๖ ได้เร็วที่สุดใน ๘ เดือน มีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่าจบการศึกษาชั้น ม.๖ ในระบบโรงเรียนหรือนอกระบบโรงเรียนทุกประการ ซึ่งสามารถนำประกาศนียบัตรดังกล่าวไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได้จนถึงปริญญาเอก รัฐบาลจึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความรู้ประสบการณ์อยู่แล้ว แต่ไม่ปรากฏในระบบตามปกติว่ามีความรู้ในระดับใด ได้มาเทียบโอนความรู้และเรียนเสริมในทฤษฎีส่วนต่างๆ ที่ยังขาดไป ซึ่งแต่ละท่านอาจจะขาดไม่เหมือนกัน เช่น บางท่านขาดเรื่องภาษา ก็จะได้เรียนเสริมด้านภาษา หรือบางท่านขาดเรื่องการจัดการ ก็จะเติมเรื่องการจัดการ เป็นต้น
ดังนั้น นโยบายนี้จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ยกระดับคุณภาพการศึกษาของคนไทย เพราะว่าในโลกยุคปัจจุบันก็วัดกันว่าส่วนเฉลี่ยของคนในประเทศนั้นๆ มีการศึกษาในระดับใด ยิ่งคนในประเทศมีการศึกษาสูงขึ้นก็มีโอกาสผลักดันให้ประเทศของเราสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้มากขึ้น จึงขอแสดงความชื่นชมกับ กศน.และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กศน.กรุงเทพฯ/จังหวัด/อำเภอ ที่ได้ขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างเข้มแข็ง
ยืนยันว่าในส่วนของรัฐบาล และผู้บริหารฝ่ายการเมืองของ ศธ. มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายยกระดับการศึกษาประชาชนจบ ม.๖ ใน ๘ เดือน "อย่างมีคุณภาพ" ให้สำเร็จ และเป็นประโยชน์กับประชาชน และนักศึกษาที่ประสงค์จะพัฒนาตัวเองหรือเรียนต่อ และจะสนับสนุนทุกวิถีทางให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ
นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการ กศน. กล่าวว่า กศน.ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายปรากฏผลเป็นรูปธรรม บรรลุผลตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้กำหนดให้มีพิธีเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการยกระดับการศึกษาของตนและคนในชุมชนให้สูงขึ้น รวมทั้งสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนให้แก่ประชาชนทั่วไปและบุคลากรในสังกัด กศน.ทุกระดับที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้เข้าร่วมงานเปิดตัวโครงการในครั้งนี้ประกอบด้วยผู้บริหาร ครู นักศึกษา กศน. และประชาชนผู้สนใจ มาสมัครลงทะเบียนเทียบระดับ ม.๖ จำนวน ๓,๑๕๙ คน สำหรับผู้สนใจที่มีอายุ ๒๐ ปีขึ้นไป ทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี สามารถยื่นใบสมัครเข้าประเมินเทียบระดับการศึกษาในระดับสูงสุดของการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ที่สำนักงาน กศน.กรุงเทพฯ/จังหวัด/อำเภอ ทั่วประเทศ ซึ่งจะได้รับสิทธิเรียนฟรี ๑๕ ปีตามนโยบายรัฐบาล โดยมีเป้าหมายว่าในปีแรกจะมีผู้สมัครเรียนจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ คน
เปิดปฏิทินสอบโครงการจบ ม.6 ใน 8 เดือน
สำนักงาน กศน.กำหนดปฏิทินทดสอบโครงการยกระดับการศึกษาประชาชน จบ ม.6 ใน 8 เดือน อย่างมีคุณภาพ ย้ำคุมเข้มจัดสอบป้องกันทุจริต
วันนี้(2ก.ค.)นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(สำนักงาน กศน.) เปิดเผยว่า ตามที่ กศน.จัดโครงการยกระดับการศึกษาประชาชน จบ ม.6 ใน 8 เดือน อย่างมีคุณภาพ นั้น กศน.ได้ประกาศรับสมัครกลุ่มเป้าหมายผู้เข้ารับการประเมิน และประสานงานกับ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เพื่อดำเนินการประเมินภาคทฤษฎี และเตรียมการจัดทำข้อสอบ และการกำหนดสนามสอบ 1 จังหวัด 1 แห่ง ส่วนพื้นที่ห่างไกล หรือ มีกลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก สามารถมีสนามสอบมากกว่า 1 แห่งได้ โดยให้อยู่ในดุลพินิจของสำนักงาน กศน.จังหวัด ทั้งนี้ต้องกำกับ ควบคุม ดูแล การดำเนินการสอบให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่ให้เกิดการทุจริต หรือเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
เลขาธิการ กศน. กล่าวต่อไปว่า สำหรับการประเมินผลแบ่งเป็น 2 ภาค ได้แก่ ภาคทฤษฎี 70%และภาคประสบการณ์ 30% โดยข้อสอบภาคทฤษฎี จะแบ่งเป็นข้อสอบจาก สทศ. 20% และข้อสอบของ กศน. 50% ส่วน ภาคประสบการณ์นั้น ผู้ประเมินจะต้องผ่านการประเมินภาคทฤษฎีในแต่ละรายวิชาไม่น้อยกว่า 50% ก่อนแล้วจึงเข้าสู่การประเมินภาคประสบการณ์ ซึ่งจะเป็นการประเมินด้วยการปฏิบัติจริง และหรือสัมภาษณ์ และหรือชิ้นงาน และหรือแฟ้มประมวลประสบการณ์ โดยแต่ละรายวิชาต้องได้คะแนนภาคทฤษฏี และภาคประสบการณ์รวมกันไม่น้อยกว่า 60% ทั้งนี้การจัดสอบภาคทฤษฎีจะจัดให้มีการสอบ 2 ครั้ง คั้งที่ 1 จัดสอบโดย สทศ. วันที่ 27-28 ก.ค.นี้ ประกาศผล 25 ส.ค. และ จัดสอบโดย กศน. วันที่ 3-4 ส.ค. ครั้งที่ 2 จัดสอบโดย สทศ. วันที่ 23-24 พ.ย. ประกาศผล 25 ธ.ค. และ จัดโดย กศน.วันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. ซึ่งสามารถดูตารางสอบได้ที่ www.pattanadownload.com
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/education/216314
http://www.moe.go.th/mobile1/viewNews.php?nCatId=news_act&moe_mod_news_ID=30900