กล้วย เป็นผลไม้ที่หากินได้ง่ายในบ้านเรา แถมยังมีกล้วยให้เลือกกินอยู่หลายชนิดด้วยกันอีกต่างหาก ทว่ากล้วยที่ได้กินกันบ่อย ๆ ก็คงหนีไม่พ้นกล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ และกล้วยหอม เพราะนอกจากจะกินกล้วยเป็นผลไม้แล้ว กล้วยแต่ละชนิดยังนำไปทำขนมอร่อย ๆ ได้อีกด้วยเนอะ แต่ครั้นจะกินกล้วยไปวัน ๆ โดยไม่รู้จักประโยชน์ของกล้วยกันเลย นั่นก็ไม่ใช่สไตล์เราค่ะ ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักสรรพคุณของกล้วยหอม มาดูซิว่าประโยชน์ของกล้วยหอมต่อสุขภาพ มีอะไรเด็ด ๆ จนต้องร้องว้าวกันบ้าง
อ่อ...แต่ก่อนจะไปเจาะลึกถึงประโยชน์ของกล้วยหอมกัน เราจะพาทุกท่านมาดูข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย กันก่อนว่า คุณค่าทางโภชนาการของกล้วยหอมในปริมาณ 100 กรัม มีสารอาหารที่สำคัญอะไรบ้าง
- พลังงาน 132 กิโลแคลอรี
- น้ำ 66.3 กรัม
- โปรตีน 0.9 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 31.7 กรัม
- ไฟเบอร์ 1.9 กรัม
- ซัลเฟต 0.9 กรัม
- แคลเซียม 26 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 46 มิลลิกรัม
- เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม
- เบต้า-แคโรทีน 99 ไมโครกรัม
- วิตามินเอ 17 ไมโครกรัม
- วิตามินบี 1 (ไทอะมีน) 0.04 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) 0.07 มิลลิกรัม
- ไนอะซีน 0.1 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 27 มิลลิกรัม
1. ช่วยป้องกันกระดูกเปราะ
จะเห็นได้ชัดว่ากล้วยหอมมีฟอสฟอรัสค่อนข้างสูง ซึ่งสารอาหารชนิดนี้จะมีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกเราได้ อีกทั้งในกล้วยหอมก็ยังมีแคลเซียมช่วยเสริมความแข็งแกร่งของกระดูกส่วนต่าง ๆ ในร่างกายได้อีกทาง
2. ต้านอนุมูลอิสระ
กล้วยเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีอยู่พอสมควร ดังนั้นจะถือเป็นผลไม้ต้านอนุมูลอิสระตัวหนึ่งก็ไม่ผิดนัก อีกทั้งวิตามินซีที่มีอยู่ในกล้วยยังจะช่วยเสริมความแข็งแรงของหลอดเลือด และป้องกันโรคลักปิดลักเปิดได้ด้วยนะคะ
เมื่อร่างกายตกอยู่ในสภาวะเครียด ความดันเลือดก็จะสูงขึ้น ส่งผลให้เรารู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว หรืออาจก่อให้เกิดอาการปวดหัวตุบ ๆ ได้ ซึ่งจุดนี้โพแทสเซียมและวิตามินในกล้วยหอมจะช่วยลดความดันเลือดให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ จึงทำให้ร่างกายลดระดับความตึงเครียดลงไปด้วยนั่นเอง
4. บำรุงสายตา
กล้วยหอมพกมาทั้งวิตามินเอ และเบต้า-แคโรทีน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญต่อสุขภาพดวงตา มีส่วนช่วยบำรุงการทำงานของระบบประสาทตา จึงสามารถบำรุงสายตาและการมองเห็นได้เป็นอย่างดี
5. แก้ท้องผูก
ไฟเบอร์ที่มีอยู่ในกล้วยหอมเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ ซึ่งดีต่อระบบขับถ่ายของเรามากเลยทีเดียว ดังนั้นใครมีอาการท้องผูกบ่อย ๆ ลองกินกล้วยหอมให้ได้ทุกวัน วันละ 1 ลูก ก็น่าจะช่วยแก้ท้องผูกให้คุณได้
บทบาทนี้ของกล้วยหอมต้องยกความดีความชอบให้กับวิตามินซีเลยค่ะ เพราะวิตามินซีมีส่วนสำคัญต่อกระบวนการผลิตพลังงานของร่างกาย ฉะนั้นใครอยากเติมพลังให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า กล้วยหอมสักลูกก็ช่วยได้ โดยเฉพาะหากกินกล้วยหอมก่อนออกกำลังกาย ก็จะช่วยให้อึดขึ้นด้วย
7. แก้นอนไม่หลับ
กินกล้วยหอมก่อนนอนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้นอนไม่หลับได้ค่ะ เพราะกล้วยหอมอุดมไปด้วยกรดอะมิโนและทริปโตเฟน สารประกอบสำคัญของการสร้างเซโรโทนิน ฮอร์โมนในร่างกายที่ช่วยให้หลับง่ายขึ้น ดังนั้นใครมีอาการนอนหลับกระสับกระส่าย นอนไม่หลับบ่อย ๆ แนะนำให้กินกล้วยหอมหลังมื้อเย็นแล้วค่อยอาบน้ำนอน
8. ช่วยย่อยอาหาร
กากอาหารในกล้วยหอมจะช่วยให้การทำงานของระบบย่อยอาหารคล่องตัวมากขึ้น ยิ่งถ้ากินกล้วยหอมได้บ่อย ๆ ก็จะช่วยปรับจูนระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้เป็นปกติดี ชนิดที่เราไม่จำเป็นต้องพึ่งยาช่วยย่อยกันอีกเลย
ขอออกตัวก่อนค่ะว่ากล้วยหอมไม่ใช่ผลไม้แคลอรีต่ำ เพราะแคลอรีในกล้วยหอม 1 ลูกย่อม ๆ ก็ให้พลังงานประมาณ 132 กิโลแคลอรีกันเลย ทว่าจุดเด็ดที่ทำให้กล้วยหอมช่วยลดน้ำหนักได้ก็คือ กล้วยมีวิตามิน B1 และ B2 คอยช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน อีกทั้งยังมีคาร์โบไฮเดรตชนิดดีต่อร่างกาย มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ ดังนั้นเมื่อกล้วยตกเข้าไปในระบบย่อยอาหารจึงดูดซับน้ำ พองตัวและช่วยทำให้ท้องรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น
อ้อ ! ขอแถมให้อีกหนึ่งทริค ถ้าอยากกินกล้วยหอมลดน้ำหนักจริง ๆ แนะนำให้กินกล้วยหอมตอนเช้า เพราะน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตในกล้วยหอมจะช่วยลดความอยากอาหารหวาน ๆ ของร่างกาย ทำให้เราควบคุมอาหารได้ดีขึ้น
10. บำรุงหัวใจ
ในกล้วยหอมมีวิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิดที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้อีกด้วย ที่สำคัญเบต้า-แคโรทีนในกล้วยหอมยังมีส่วนช่วยบำรุงความสมบูรณ์แข็งแรงของหลอดเลือดเราได้อีกทาง ดังนั้นพยายามกินกล้วยหอมให้ได้ทุกวันก็จะดีต่อใจมาก ๆ เลยล่ะ
สรรพคุณกล้วยหอมพร้อมเป็นยา
1. เป็นยาทำให้ปอดชุ่ม รักษาโรคร้อน กระหายน้ำ
ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน กล้วยหอมมีรสเย็น และเข้าเส้นลมปราณปอด จึงมีการนำกล้วยหอมมารักษาโรคร้อน กระหายน้ำ แก้เมาแฮงก์ แก้ไอเรื้อรังจากอาการคอแห้ง เพียงแค่กินกล้วยหอมสุกหรือสมูทตี้กล้วยหอมก็ได้
2. รักษาความดันโลหิตสูง
ตำรับยาสมุนไพรใช้เปลือกกล้วยหอมสด 30-60 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม เป็นยาหม้อช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ หรือหากต้มปลีกล้วยกินเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองแตกได้
3. รักษาโรคริดสีดวงทวาร
ใครมีอาการท้องผูก หรือเป็นริดสีดวงทวาร ตำรับนี้จะช่วยแก้อาการให้คุณได้ เพียงแค่กินกล้วยหอมสุก 1-2 ลูกทุกเช้าขณะท้องว่างเป็นประจำ
4. รักษาอาการมือ-เท้าแตก
เปลือกกล้วยหอมยังมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการมือ-เท้าแตกได้ด้วยนะคะ โดยนำกล้วยหอมที่สุกเต็มที่มาเจาะรูเล็ก ๆ ที่ปลายข้างหนึ่ง แล้วบีบเอากล้วยออกมาทาที่เท้าแตก ทิ้งไว้หลาย ๆ ชั่วโมงหน่อยแล้วค่อยล้างออก ทำบ่อย ๆ ผิวที่เคยแห้งแตกจะชุ่มชื้นและดูดีขึ้นได้
ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีสองด้านเสมอ อย่างกล้วยหอมเองก็มีข้อควรระวังในการรับประทานด้วย ซึ่งก็คือไม่ควรกินกล้วยหอมมากเกินขนาด สักวันละ 1-2 ลูกก็เพียงพอ เพราะกล้วยหอมมีฤทธิ์เย็น ไม่เหมาะต่อคนที่มีอาการท้องอืด มีลมในท้องมาก มีเสมหะมากเนื่องจากอาการม้ามพร่อง เพราะอาจทำให้อาการเหล่านี้ยิ่งกำเริบได้
ขอทิ้งท้ายไว้นิดนึงว่า สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก อย่าลืมนะคะว่ากล้วยก็มีแคลอรีพอประมาณ ถ้ากินเกินวันละ 2 ลูกก็ให้พลังงานเกือบ 300 กิโลแคลอรีแล้ว ฉะนั้นเลือกกินอาหารที่หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารได้ครบถ้วน และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำจะดีกว่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กองโภชนาการ กรมอนามัย
โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ
livescience
authoritynutrition